ฉลอง ภักดีวิจิตร ตำนานหนังบู๊ "โกอินเตอร์"

กระทู้ข้อมูลต่างๆจากเวบบอร์ดเก่า สามารถตอบกระทู้ได้นะครับ

โพสต์โดย o_cokeyuth » อังคาร ก.พ. 20, 2007 12:18 am

ลุง ฉลอง ภักดีวิจิตร ปีนี้อายุ 76 ปีแล้ว ยังแข็งแรงอยู่
แกเคยให้สัมภาษณ์ว่า...(สัมภาษณ์โดย คุณ ชัยโรจน์ วันที่: 04/05/49 www.thaifilm.com)

"ผมเริ่มเข้าจับงานภาพยนตร์เรื่องแรกคือ แสนแสบ ในฐานะช่างกล้อง (ถ่ายภาพ) เป็นภาพยนตร์ขาวดำ รู้สึกจะปี 2493 เห็นจะได้นะครับ ผมเริ่มสนใจอย่างจังในเรื่อง แสนแสบ เป็นการจับกล้องอย่างแท้ริง ผมช่วยพ่อแม่ไปด้วย ผมต้องยอมรับว่าแรก ๆ ก็ไม่ได้มีความสนใจหรอกนะครับ แต่มันไปของมันเอง
ตอนนั้นผมยังเรียน ม. 8 อยู่อำนวยศิลป์ พอหนังออกฉายมันเฟื่องครับ นี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ดึงผมให้เข้ามาสู่วงการเป็นผู้กำกับนะครับ พอหนังได้รับความสำเร็จ เราก็ภูมิใจ ความภูมิใจนี่เป็นพลังที่ดีอย่างหนึ่ง ผลักดันให้มนุษย์เราประสบผมสำเร็จในชีวิตมามากแล้วนะครับ
ผมยังทำงานในฐานะช่างกล้องต่อไป พยายามรวบรวมเงินสร้างภาพยนตร์ เริ่มด้วยเรื่อง ฝนใต้ สร้างในระบบ 16 มิลลิเมตร

ผมเองไม่เคยไปศึกษาวิชาการสร้างภาพยนตร์จากฮอลลีวู๊ดหรือจากประเทศไหน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นและสร้างวันนี้ให้กับผม เกิดจากการศึกษาด้วยตัวเองจากตำราของต่างประเทศ ทั้งจากการเข้าไปคลุกคลีและจากการแนะนำของผู้ประสบการณ์อยู่ก่อนอย่างอบรมครู ศรีบูรพา ไงครับ
ก่อนผมจะสร้างเรื่อง ฝนเหนือ ในระบบ 35 มิลลิเมตร ผมรับจ้างเป็นช่างกล้องให้กับภาพยนตร์รื่อง ประกาศิตจางซูเหลียง ของคุณสุพรรณ ราหมณ์พันธุ์ มาก่อนซึ่งเป็นระบ 35 เช่นกัน ทำให้ผมพอได้ศึกษาถึงความแตกต่างระหว่างของทั้งสองระบบ มันแตกต่างกันมาก เพราะระบบ 16 มิลลิเมตรพอถ่ายเสร็จล้างเสร็จก็ออกฉายได้เลย ไปพากย์ให้เสียงกันทีหลังได้แต่ระบบ 35 มิลลิเมตรพอถ่ายเสร็จต้องเอาทำซาวด์เอ็กเพ็ค ทำเสียงดนตรี เสียงคนใส่เข้าไปด้วย ปัญหายุ่งยากกว่ากันมาก


แต่การที่ผมผมตัดสินใจมาจับหนัง 35 มิลลิเมตร เพราะผมอยากเห็นความเจริญของภาพยนตร์ไทย หนังของต่างประเทศเขาล้วนแต่เป็นหนัง 35 ทั้งนั้นและเป็นมานานแล้ว ถ้าหากเราจะสู้กับเขาคือส่งหนังออกไปฉายตลาดโลก สิ่งแรกก็คือเราต้องทำหนัง 35 มิลลิเมตรนี่ล่ะครับ
อย่างเรื่อง สองสิงหืสองแผ่นดิน ที่ร่วมทำกับทางฮ่องกงผมก็ไม่ได้อะไรเลย ซึ่งที่จริงทางฮ่องกงมาติดต่อร่วมสร้างกับผม แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรถือว่าเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่ง
ทอง นั่นเป็นประการณ์ครั้งแรกที่แท้จริงของผม ที่สร้างภาพยนตร์ออกสู่ตลาดโลก ยอมรับว่ายังมีข้อผิดพลาดมาก หลายสิ่งหลายอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่คาดคิด แต่มันก็เป็นบทเรียนที่ดีในการก้าวต่อไป ปัญหาแรกที่พบก็คือ ดารานักแสดงเราเองจำเป็นที่ต้องมีดาราสากลร่วมด้วย เพราะดาราไทยตลาดโลกขายไม่ออกไม่มีใครรู้จัก และถึงจะได้ดาราสากลมาร่วมก็ต้องสร้างให้ภาพยนตร์อยู่ในแนวที่ตลาดสนใจประเภทเกี่ยวกับชายแดน เกี่ยวกับฝิ่น ซึ่งต้องดีด้วย ไม่ใช่ทำแบบถังขยะเขาก็ไม่เอาเหมือนกัน

อย่างประเทศจีนทั้ง ๆ ที่เป็นคนในเอเซีย แต่เขากลับสร้างภาพยนตร์ฉายทั่วโลกได้สบาย เพราะประชากรชาวจีนเขามีอยู่ทั่วโลกเขารู้กัน และจำนวนไม่น้อยเสียด้วย ปัญหาติดต่อดาราสากลก็มีขั้นตอนมากต้องผ่านเอเย็นซี่(ตัวแทนบริษัท) เสร็จต้องผ่านผู้จัดการส่วนตัวของดารา แล้วพอถึงดาราบทที่เราเสนอไปก็ต้องถูกใจเขาอีก
อย่าง โรเบิร์ต จินตี้ ในทองภาคสอง บี้จนเขาพอใจบท พอเขาพอใจบทยังมีเงื่อนไขอีกคือเขาต้องเป็นตัวยืนเสมอไม่ว่าจะเป็นใบปิดหรือคัตเอ๊าท์ แถมยังต้องเฉลี่ยผลกำไรให้ถึง 50 เปอร์เซนต์ทุกครั้งที่ฉาย เราก้ต้องผอมเพราะตอนนี้เขาเหนือกว่า นี่ยังดี ในทองภาคแรกซิแย่กว่านี้เยอะ เพราะไม่ได้วิ่งจำหน่ายเองขายให้ตัวแทนไปเลยถูกกดราคาเสียแทบแย่
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_cokeyuth
 
โพสต์: 7846
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 10:02 am
ที่อยู่: สระบุรี

โพสต์โดย o_cokeyuth » อังคาร ก.พ. 20, 2007 12:29 am

วันนี้ ได้เจอ ลุง ฉลอง ภักดีวิจิตร ตัวจริง ก็เลยสัมภาษณ์กะเขาบ้าง เอามาลงเวปสักหน่อย
หนังเรื่อง "ฝนใต้" เป็นหนังเรื่องแรกที่ทุบกระปุกทุ่มทุนสร้าง .....
เป็นหนังบู๊ประกอบเพลง ซึ่งคนร้องเพลงประกอบและนำแสดงด้วย คือ เพลิน พรหมแดน

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_cokeyuth
 
โพสต์: 7846
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 10:02 am
ที่อยู่: สระบุรี

โพสต์โดย o_cokeyuth » อังคาร ก.พ. 20, 2007 12:55 am

ผมคุยกับลุงฉลอง ระหว่างพักกองถ่าย ว่า ช่วง ยุคทองของหนังบู๊
ทำไมกองถ่ายมักเลือกมาถ่ายทำที่สระบุรี?
ลุงฉลอง เล่าว่า สระบุรี เปรียบเหมือน ซุปเปอร์มาเก็ตของคนทำหนัง คือ มีทั้ง โลเกชั่นธรรมชาติ ป่า ภูเขา แม่น้ำ
มีค่ายทหาร ซึ่งหมายถึง ตัวประกอบจำนวนมาก/ม้า (ฉากรบโบราณ) /ยุทโธปกรณ์ในฉากสงคราม /เฮลิคอปเตอร์
ที่สำคัญอีกอย่างคือ อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ดาราใหญ่สามารถ "วิ่งรอก" ได้ (แบ่งคิวมาถ่าย)
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_cokeyuth
 
โพสต์: 7846
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 10:02 am
ที่อยู่: สระบุรี

โพสต์โดย o_cokeyuth » อังคาร ก.พ. 20, 2007 1:04 am

ทำให้ผมจำสมัยเด็กๆว่า สมัยที่สระบุรีเป็นฮอลลีวู้ดเมืองไทยนั้น ร้านค้าที่ตลาดขายน้ำแดง(น้ำหวาน)
ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะเขาเอาไปทำเป็นเลือด เวลาถ่ายทำหนังบู๊
พวกล้อยางเก่าๆที่ไม่ใช้แล้ว ก็ขายดี เพราะเขาเอาไปเผาทำเป็นฉากไฟไหม้ มีควันเยอะๆ

อันนี้ยังไม่รวมถึง พวกตัวประกอบที่ไม่ตื่นกล้อง รู้คิวกล้องเพราะ มีประสบการณ์ ไม่เป็นไทยมุง ก็เคยเดินผ่านฉากมาแล้ว :lol:
ส่วนไทยมุงกองถ่าย ก็เป็นไทยมุงคุณภาพนะครับ จะรู้คิว เวลาสมบัติ เมทะนี วิ่งไล่ผู้ร้าย แล้วผู้กำกับไม่ให้ผ่าน
พอสั่งคัท....มีเก้าอี้ส่งมาจากไทยมุงมาให้ น้าบัตินั่งพักเหนื่อยทันที พอสั่งแอ๊คชั่น เก้าอี้ก็ถูกเก็บทันที :lol:

ยุคนั้น เศรษกิจมันเฟื่องดีจริงๆครับ วิ่งหาพร๊อพ วิ่งหาของประกอบฉาก กันสนุก เช่น แม่ค้าวิ่งขายไก่ย่าง ตามท่ารถ ถ้ามีฉากต้องถ่ายทำฉากบู๊ตรงคิวรถ ไก่ย่างก็โดนเหมาเป็นพร๊อพ พอถ่ายเสร็จ ไก่ย่างก็กลายเป็นสเบียงกองถ่าย
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_cokeyuth
 
โพสต์: 7846
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 10:02 am
ที่อยู่: สระบุรี

โพสต์โดย o_cokeyuth » อังคาร ก.พ. 20, 2007 1:11 am

ในฐานะที่ลุงฉลองก้าวมาจากการเป็น ตากล้องเก่า พอถ่ายทำเสร็จ ลุงฉลองก็ให้ช่างกล้องมาถ่ายเจาะ
กิจกรรมต่างๆของคนในตลาด มาประกอบ นั่นแสดงถึงความละเอียดแบบมืออาชีพ
วันนี้จึงเป็นโอกาสดีของผมในฐานะแฟนหนังของ ลุงฉลอง ภักดีวิจิตร ที่ได้มาเห็นการทำงานของ "ตำนานผู้กำกับหนังบู๊ที่ยังมีชีวิต"
ก็เลยอดเผื่อแผ่บรรยากาศมายังพี่น้องโค้กไทยไม่ได้

อ้อ...อย่าลืมติดตามละครฝีมือ ลุงฉลอง เรื่อง "ฝนเหนือ" ทางช่องเจ็ดสีนะครับ
รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย o_cokeyuth เมื่อ พุธ ก.พ. 21, 2007 11:04 am, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_cokeyuth
 
โพสต์: 7846
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 10:02 am
ที่อยู่: สระบุรี

โพสต์โดย o_farang » อังคาร ก.พ. 20, 2007 9:50 am

ข้อมูลแน่นจริงนะครับพี่ยุทธ เมื่อก่อนผมเคยเป็นตัวประกอบเดินผ่านฉากมาแล้ว ค่าตัวฉากละ 50 บาท เล่นไป 2 เรื่อง (เรื่องละฉาก) :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_farang
 
โพสต์: 679
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 06, 2006 2:25 pm
ที่อยู่: บางบัวทอง นนทบุรี

โพสต์โดย o_cokeyuth » พุธ ก.พ. 21, 2007 10:34 am

farang เขียน:ข้อมูลแน่นจริงนะครับพี่ยุทธ เมื่อก่อนผมเคยเป็นตัวประกอบเดินผ่านฉากมาแล้ว ค่าตัวฉากละ 50 บาท เล่นไป 2 เรื่อง (เรื่องละฉาก) :D


ข้อมูลไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่หรอกครับ เพราะไม่เคยเล่นเป็นตัวประกอบนี่นา :lol:
เคยแต่วิ่งจัดหาของเข้าฉาก อาทิ รถเก่าๆ เพราะเราเป็นคนในพื้นที่ จะรู้ว่าบ้านไหนมีรถเก่า ยี่ห้อญี่ปุ่น หรือ ฝรั่ง
พอถูกสเป๊คผู้กำกับ ก็จะไปทาบทามเจ้าของว่าพารถเก่าไปเที่ยวด้วยกันสักครึ่งวันได้ไหม

ชื่อละครตอนที่กำลังถ่ายทำ ผมก็ยังงงอยู่เหมือนกัน ว่าเป็น "ฝนเหนือ" หรือ "ฝนใต้"
เพราะเคยดูตอนเด็กๆแต่หนังเรื่องฝนใต้ แต่มีเกร็ดมาเล่า....ถ้าจำไม่ผิดว่า พอสร้างหนังฝนใต้ ได้ตังค์
ลุงฉลองก็สร้างหนังเรื่อง "ฝนเหนือ" ต่อเป็นเรื่องถัดมา (พอเป็นละคร ลุงฉลองแกก็สร้าง ฝนใต้ กับฝนเหนือ มาติดๆกันอีก เลยอาจจะงงเรื่องชื่อ)

ภาพลุงฉลอง กับครอบครัว
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_cokeyuth
 
โพสต์: 7846
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 10:02 am
ที่อยู่: สระบุรี

เกิดไม่ทัน

โพสต์โดย o_ลูกอีช่างเก็บ_80 » พุธ ก.พ. 21, 2007 11:15 am

ถึงจะเกิดไม่ทันในยุคทองของหนังไทย ยุคสมัยที่คุณอายุทธสาธยายมาให้ฟัง แต่นึกวาดภาพตามแล้วก้อรู้สึกเหมือนได้ดื่มด่ำอรรธรสเหล่านั้น แม้จะไม่เท่าที่คุณอาทั้งหลายได้สัมผัสกันก้อตาม

...เก็บสิ่งที่หลงใหล แล้วเทใจให้เต็มที่...
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_ลูกอีช่างเก็บ_80
 
โพสต์: 2635
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 20, 2006 4:12 pm

โพสต์โดย o_PAO » พุธ ก.พ. 21, 2007 3:39 pm

เห็นไหม พี่ยุทธเล่าเรื่องเก่าๆมาก เลยกลายเป็นคุณอาไปซะแล้ว :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_PAO
 
โพสต์: 20125
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 08, 2005 6:13 pm
ที่อยู่: 11 หมู่ 2 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม 10520

โพสต์โดย o_แอน » ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 10:32 pm

:wink: พี่ยุทธ..นี้สุดยอดนักข่าวจริงๆ :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_แอน
 
โพสต์: 1833
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 07, 2006 2:42 pm
ที่อยู่: ถ.รามอินทรา ก.ม 9 กรุงเทพฯ

โพสต์โดย o__Sam » จันทร์ ก.พ. 26, 2007 10:33 am

เนี่ยไปไงหล่ะพี่ เล่าเรื่องเก่าๆ โชว์แมกๆ upgradeตัวเองเป็นอาไปแล้ว :lol:

ผลงานดีมีคุณภาพอีกแล้วคับท่าน
ภาพประจำตัวสมาชิก
o__Sam
 
โพสต์: 3655
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 10:52 am
ที่อยู่: BKK

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง Retro Society (บอร์ดเก่า)

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน

cron