งานโครงงานเยอะมากๆ กว่าจะหาเวลาเล่นเว็บได้นะครับเนี่ย...
แต่พอมีที่ว่างแล้ว... มาลุยกันเลย!!!
ขอแนะนำสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์และจุดเด่นของภูเก็ตกันนะครับ
มันก็คือ...
"วัดฉลอง"
ขออนุญาตเอาภาพพี่เอ๊าะมาเป็นภาพประกอบการเล่าประวัติอันสนุกสนานของผมนะครับ
วัดนี้ ก็เหมือนวัดธรรมดาสามัญทั่วๆ ไป แต่ที่เป็นจุดเด่นก็คือ...
หลวงพ่อแช่ม
กระผมขอเล่าวีรกรรมของหลวงพ่อแช่มที่ทำให้เป็นที่น่าศรัทธาของเหล่าศาสนิกชนทั่วๆ ไปกันนะครับ
สมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีพวก "อั้งยี่" พวกหนึ่ง ได้ปล้นสดมภ์ของชาวบ้านและเข่นฆ่าชาวบ้านเป็นจำนวนมาก จนชาวบ้านทนไม่ไหว
เขาจึงได้ไปหาวัดเล็กๆ วัดหนึ่ง ซึ่งได้ไปหาหลวงพ่อแช่มให้ไปช่วยปราบ ท่านได้กล่าวว่า "อันตัวข้ามิได้มีอาวุธอันใด แต่มีสิ่งนี้เอาไว้ให้พวกสูพกติดตัวเอาไว้" ว่าแล้วท่านก็ได้ให้ผ้ายันต์ประเจียดสีขาวเอาไว้พกติดตัว ชาวบ้านก็พากันโพกหัวเอาไว้ป้องกันตัว และเขาก็ได้ปราบพวกอั้งยี่จนได้
จากการที่พวกอั้งยี่ถูกปราบไปจำนวนหนึ่ง พวกมันก็ชอบเรียกชาวบ้านกลุ่มนี้ว่า "อ้ายหัวขาว" เพราะจากการที่ชาวบ้านผูกผ้ายันต์ประเจียดสีขาวนั่นเอง
ชาวบ้านอยู่อย่างสามัคคี บวกกับบารมีของหลวงพ่อแช่มที่ให้แก่ชาวบ้าน ทำให้พวกอั้งยี่ยิ่งลดลงมาจากเดิมที่มากอยู่
พวกอั้งยี่โมโหมากที่หลวงพ่อแช่มได้ไปปราบพวกมัน พวกมันจึงตั้งสิบบนไว้ว่า "ท่านผู้ใดที่ได้ไปตัดหัว จับตัว หรือทำวิธีการใดๆ ที่ทำให้หลวงพ่อได้ยอมมอบตัว ท่านผู้นั้นสมควรได้รับรางวัลเป็นเงินถึง ๕,๐๐๐ เหรียญ" ทำให้พวกอั้งยี่ยิ่งอยากได้ตัวท่านหลวงพ่อแช่มมากขึ้น
กลุ่มชาวบ้านก็ไม่ยอมแพ้ ได้ปราบพวกอั้งยี่ต่อ จนกระทั่งวันหนึ่ง เวลารบนะครับ จะมีกำแพงวัดเก่าๆ ชาวบ้านอยู่ในวัด พวกอั้งยี่อยู่นอกวัด ทีนี้ เช้าๆ พวกอั้งยี่ก็รบตามปกติ แต่ตอนเที่ยงมันหายไปไหนกัน พวกชาวบ้านจึงย่องไปหาพวกมัน กลายเป็นว่า พวกมันนั่งกินข้าวต้ม ดูดฝิ่นจนหลับสนิทอีกนาน
หลวงพ่อจึงกล่าวว่า "พวกจีนไม่มีแรงถึงต้องกินข้าวต้ม พวกไทยไม่ต้องกินข้าวต้มถึงมีแรง" จากนั้น พวกชาวบ้านก็ปราบพวกอั้งยี่จนสำเร็จ
เมื่อเรื่องไปยังบางกอก จึงมีราชโองการของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ท่านหลวงพ่อแช่มมาเข้าเฝ้า
เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป
- To Be Continue -
"สวัสดี"