พิพิธภัณฑ์ธงสยาม - เครื่องเล่นกระบอกเสียงฯ ไทย

กระทู้ข้อมูลต่างๆจากเวบบอร์ดเก่า สามารถตอบกระทู้ได้นะครับ

โพสต์โดย o_BANGKOKmuseum » พุธ พ.ค. 21, 2008 10:59 am

sermsoon เขียน:มีของ 4-5 ชิ้นอยากนำไปมอบให้ (ตั้งนานแล้ว)
ตอบแทนที่เคยได้รับน้ำใจสิ่งดีๆ มาโดยตลอด
เชื่อว่าหนึ่งในนั้น อาจ จะทำให้ถึงกรี๊ด
หากว่าผมไม่ได้เป็นคนหลงตัวเองมากไป

ก็ไม่รู้ว่าจะเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนหรือเปล่านะ

ป.ล.
ทุกสิ่งในกระทู้ของคุณนุช บ่งบอกความเป็นมืออาชีพ
ผมค่อยๆ ละเลียดมาแล้วเมื่อคืนนี้ จบเอาตอนเกือบตีสี่
สรุปได้ด้วยข้อความประโยคเดียว ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

กรุงศรีอยุธยาไม่มีวันสิ้นคนดีหรอกครับ

:cool:





:D :D :D
เข้าชมพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระนคร...โปรดกรุณาติดต่อ: 081-6233223 (นุช) ขอบคุณค่ะ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_BANGKOKmuseum
 
โพสต์: 496
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 19, 2008 6:09 pm
ที่อยู่: พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระนคร (www.bangkokmuseum.org)

โพสต์โดย o__Santana » พุธ พ.ค. 21, 2008 11:23 am

พูดถึงพิพิธภัณฑ์ภาพยนต์ไทยนี่ชาวเรโทน่าไปเยี่ยมเยียนกันหน่อยนะ

อยู่ศาลายาแค่นี้เองจะได้แวะร้านขายของเก่ากันด้วยแถวนั้นเพียบ

จัดทริปเหอะหัวหน้าพุงอ้วน :-)
หนทางไปสู่ความลำบากแสนสบาย
หนทางไปสู่ความสบายแสนลำบาก(นิรนาม)
ภาพประจำตัวสมาชิก
o__Santana
 
โพสต์: 2758
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 12:43 pm
ที่อยู่: บางใหญ่ นนทบุรี

โพสต์โดย o_copy » พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2008 2:13 am

วันนี้ไปงานประกวดรถโบราณที่พารากอน มีมุมโชว์เครื่องเล่นกระบอกเสียงอยู่เครื่องหนึ่ง แต่ผมจำชื่อเจ้าของไม่ได้ :(

รูปภาพ

เจ้าของคือคนที่สองจากขวา

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_copy
 
โพสต์: 5833
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 16, 2007 9:04 pm
ที่อยู่: คลอง2 ปทุมธานี

โพสต์โดย ("\(*-*)/") » พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2008 8:54 am

copy เขียน:วันนี้ไปงานประกวดรถโบราณที่พารากอน มีมุมโชว์เครื่องเล่นกระบอกเสียงอยู่เครื่องหนึ่ง แต่ผมจำชื่อเจ้าของไม่ได้ :(

รูปภาพ

เจ้าของคือคนที่สองจากขวา

รูปภาพ


ขอบคุณภาพสวยๆ จากคุณ copy ครับ :D
เจ้าของชื่อคุณทวีสิน ครับ แกเป็นเจ้าของเครื่องทำห้องเย็นแคร์เรียที่ติดตั้งกับรถห้องเย็นครับ ถือเป็นนักเก็บแผ่นเสียงที่มีจำนวนมากคนหนึ่ง แต่ที่ยิ่งกว่านั้น แกเก็บเอกสารเก่าตั้งแต่รัชกาลที่ 4 มากที่สุดของประเทศคนหนึ่ง เอกสารแต่ละชิ้นเรียกว่ามาสเตอร์ พีช ทั้งนั้นเลยครับ

เครื่องเล่นจานเสียงที่เห็นเป็นของทำเลียนแบบตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 แล้วครับ จึงสามารถเรียกว่าของเก่าได้ แต่ไม่ใช่ของแท้ เพราะไม่มีรุ่นนี้ใน HMV catalog :-)
<B>"ถ้าแผ่นดินแรกที่ตั้งไข่ย่ำ เป็นผืนเดียวกับแผ่นดินสุดท้ายที่ดินกลบหน้า...จงกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด"</B>
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
("\(*-*)/")
 
โพสต์: 3005
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 9:04 am
ที่อยู่: พิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย (www.talkingmachine.org)

โพสต์โดย o_copy » พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2008 9:31 am

ใช่ครับคุณทวีสิน ด้านหลังคุณทวีสินก็ขายอุปกรณ์แต่งรถโบราณด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_copy
 
โพสต์: 5833
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 16, 2007 9:04 pm
ที่อยู่: คลอง2 ปทุมธานี

โพสต์โดย ("\(*-*)/") » พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2008 2:13 pm

copy เขียน:ใช่ครับคุณทวีสิน ด้านหลังคุณทวีสินก็ขายอุปกรณ์แต่งรถโบราณด้วย


รถโบราณส่วนหนึ่งน่าจะเป็นของแกด้วยครับ
แกมีรถโบราณไม่ต่ำกว่า 50 คัน รถทุกคันมีห้องและเปิดแอร์ให้อยู่
ถ้าเทียบงานสะสมของแกแล้ว รถโบราณมากสุด รองมาเอกสารเก่าแบบสุดๆ ขนาดหอสมุดแห่งชาติยังไม่มี และสุดท้ายเครื่องเสียงโบราณครับ
แกรู้จักผมและคุยกันมาตั้งแต่ผมยังไม่สร้างพิพิธภัณฑ์เลยครับ :)
<B>"ถ้าแผ่นดินแรกที่ตั้งไข่ย่ำ เป็นผืนเดียวกับแผ่นดินสุดท้ายที่ดินกลบหน้า...จงกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด"</B>
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
("\(*-*)/")
 
โพสต์: 3005
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 9:04 am
ที่อยู่: พิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย (www.talkingmachine.org)

โพสต์โดย ("\(*-*)/") » ศุกร์ พ.ค. 23, 2008 8:48 am

นี่ครับ!!!

สุดยอดหนังสือที่คนสะสมแผ่นเสียงแห่งสยามประเทศต่างดั้นด้นค้นหา ควานหา กันแบบแทบพลิกแผ่นดิน

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

ทำไมน่ะหรือ....ลองอ่านงานเขียนของนายแพทย์ พูนพิศ อมาตยกุล จากหนังสือ ลำนำแห่งสยาม...ดูนะครับ


"แผ่นเสียงของราชบัณฑิตยสภา"
งานบันทึกเสียงระดับชาติที่ไม่มีเหลือเพราะภัยสงคราม


เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองหนึ่งปี ได้มีการบันทึกเสียงครั้งใหญ่โดยราชบัณฑิตยสภา ซึ่งถือว่าเป็นงานส่งเสริมคีตศิลป์ระดับชาติที่ได้ทำการบันทึกเสียงลงแผ่นกันอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวงดนตรีไทยผลงานครั้งนั้นปัจจุบันคงเหลือแต่เอกสารเรื่องบทแผ่นเสียงซึ่งได้พิมพ์เป็นหนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ม.จ. (หญิง) พัฒนายุ ดิสกุล เมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๗ ครั้งนั้นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงดำรงตำแหน่งนายกราชบัณฑิตยสภา ท่านอัครราชทูตเยอรมันนามว่า Dr. Asmis ได้ถวายข้อเสนอแนะให้มีการบันทึกแผ่นเสียงเพลงไทย โดยยินดีจะติดต่อกับบริษัทโอเดี้ยน (ตราตึก) ในประเทศเยอรมันให้ช่วยบันทึกเสียงและอัดเป็นแผ่นเก็บไว้เป็นสมบัติของชาติโดยไม่หวังประโยช์นตอบแทน เพียงแต่ขอให้ประทับตราว่าเป็นของราชบัณฑิตยสภาเท่านั้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ ทรงโสมนัสในเรื่องนี้เป็นอันมาก ด้วยทรงทราบดีว่าการบรรเลงเพลงไทยโดยนักดนตรีฝีมือเอกนั้น จะคงอยู่ได้เพียงชั่วชีวิตของผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งๆ เท่านั้น อีกประการหนึ่งนักดนตรีไทยไม่นิยมจดโน๊ต การใช้สมองจดจำเพลงยอมมีการคลาดเคลื่อนสมควรที่จะได้รวบรวมทำเป็นโน๊ตสากลไว้ จึงทรงมอบหมายงานนี้ให้พระธิดา คือหม่อมเจ้า พัฒนายุ ดิสกุล เป็นผู้ดำเนินการรวบรวมนักดนตรีนัร้องและคัดเลือกบทเพลงต่างๆเพื่อจัดทำเป็นแผ่นเสียงสำหรับชุดที่หนึ่งเป็นชุดแรกก่อน โดยหวังว่าจะได้ทำชุดอื่นๆต่อไปอีก เริ่มต้น ได้มีการไหว้ครูครั้งใหญ่ที่ท้องพระโรงวังวรดิส (วังถนนหลานหลวง) มีองค์ที่ปรึกษาคือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ฝ่ายดนตรีไทยมีหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ฝ่ายดนตรีสากลมีพระเจนดุริยางค์ ( ปี ไฟท์ วาทยะกร) พร้อมด้วยนักดนตรีไทย ๒๗ คน นักดนตรีสากล ๒๖ คน นักประสานเสียง ๔๕ คน และผู้ร่วมงานอื่นๆรวมแล้วไม่น้อยกว่า ๑๒๐ คน นับเป็นงานใหญ่มาก เสียค่าใช้จ่ายแรงงานและเวลาฝึกซ้อมเป็นเวลานานร่วม ๔ - ๕ เดือนจึงได้ทำการบันทึกเสียงที่พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ (ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ) ทั้งหมดนี้ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ใช้สถานที่และข้าราชการในกรมมหรสพมาร่วมงานด้วยตลอด การบันทึกเสียงครั้งนี้ หม่อมเจ้าพัฒนายุได้ทรงนำเทคนิคใหม่ๆเข้ามาใช้เพื่อให้เกิดเสียงต่างๆสมจริงเช่น ในเพลงตับชุดนางซินเดอเรลลาเมื่อถึงตอนนาฬิกาตีก็โปรดให้ใช้เครื่องดนตรีฝรั่ง (Tubular Bell) เล่นเป็นเสียงนาฬิกาเมื่อถึงบทระฆังตีก็ใช้ระฆังฝรั่งตีจริงๆ โดยมีคุณพระเจนดุริยางค์เป็นผู้ตีเอง ในบทโขนตับพรหมาสตร์ เพลงทะแยกลองโยนเมื่อขับร้องถึงคำว่ากลองชนะ ก็มีเสียงกลองรัวประกอบ ตอนใดที่มีเสียงมโหระทึกหรือแตรสังข์ก็มีเสียงสอดแทรกให้เห็นสมจริงทุกประการ นับเป็นการใช้เทคนิคพิเศษเป็นครั้งสำคัญของการอัดเสียงเพลงไทย ต่อเนื่องมาจากเพลงแม่ศรีทรงเครื่องที่เล่ามาในตอนที่แล้ว แผ่นเสียงชุดที่หนึ่งนี้ มีทั้งที่เป็นเพลงตับและเพลงเกร็ด เฉพาะบทร้องเท่านั้น พิมพ์ได้เป็นเล่มหนาถึง ๗๗ หน้า ที่เป็นเพลงตับได้แก่ ตับเรื่องพระเป็นเจ้า ตับราชาธิราช ตอนสมิงพระรามหนีเมีย ตับอีแมน (นิทราชาคริต) ตับนางซิน ตับจูล่ง ตับขอมดำดิน ตับพระลอ ตับเรื่องอุณรุทธ์ ตับพรหมาสตร์ ตับพระนารายณ์ ปราบนนทุก ตับเรื่องจันทกินรี ตับเรื่องพระยศเกตุ เรื่องท้าวแสนปมและตับเรื่องกากี ส่วนที่เป็นเพลงเกร็ดมีทั้งเพลงเถา เพลงสามชั้น เพลงสองชั้น รวมทั้งสิน ๔๕ เพลง มีเพลงโหมโรงเพียงเพลงเดียวคือ เพลงคลื่นกระทบฝั่งสามชั้น พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๗ เมื่อได้จำนวนเพลงที่บันทึกแผ่นเสียงชุดที่ ๑ นี้แล้ว จะเห็นได้ว่าจำนวนแผ่นเสียงที่บันทึกได้เห็นจะมีมากมายเป็นจำนวนร้อยกว่าแผ่น เพราะเพลงตับนั้นแต่ละตับจะต้องใช้แผ่นเสียงเป็นจำนวนมาก บางตับใช้แผ่นเสียงถึง ๒๐ แผ่น ส่วนเพลงเถานั้นแต่ละเถาต้องใช้แผ่นเสียงไม่น้อยกว่า ๒ - ๓ แผ่นเพลงแปลกๆซึ่งปัจจุบันนี้ ได้ยินแต่ชื่อแต่หาคนบรรเลงได้ยากก็มีหลายเพลง เช่น เพลงขึ้นพลับพลาสามชั้น เพลงอัปสรสำอางค์สามชั้น บำเรอบรมบาทสามชั้น และเพลงซ้อนแท่น เป็นต้น เป็นที่น่าสังเกตว่า หม่อมเจ้าหญิงพัฒนายุ ทรงมีพระทัยกว้างมากในการจัดทำแผ่นเสียงชุดนี้ โดยมิได้ทรงเลือกที่รักมักที่ชังว่าเพลงนั้นจะมาจากสำนักใดนอกจากนี้ยังปรากฏว่า เพลงที่แต่งขึ้นใหม่ๆโดยนักดนตรีหนุ่มๆขณะนั้น เช่น เพลงแขกกุลิตเถา เพลงโสมส่องแสงเถา เพลงจีนขิมเล็กเถา เพลงเขมรปี่แก้วทางสักวาสามชั้น ซึ่งเป็นของนายบุญธรรม (มนตรี) ตราโมท นักแต่งเพลงหนุ่มมากในยุคนั้น ก็ได้รับการคัดเลือกให้บันทึกเสียงด้วย นับเป็นการส่งเสริมดนตรีไทยด้วยน้ำพระทัยอันแท้จริง นักดนตรีที่ร่วมบรรเลงเพลงไทยล้วนแต่ผู้มีฝีมือจากกรมมหรสพทั้งสิ้น คนสำคัญๆได้แก่ พระเพลงไพเราะ (โสม สุวาทิต) ตีระนาดเอก หลวงสร้อย สำเนียงสนธ์ (เพิ่ม วัฒนวาทิน) ตีฆ้องใหญ่ อาจารย์มนตรี ตราโมท ตีระนาดทุ้ม หลวงไพเราะเสียงซอ (อุ่น ดูรยชีวิน) และนายไปล่ วรรณขจร สีซอด้วง นาย ปลั่ง วรรณขจร สีซออู้ นายจ่าง แสงดาวเด่น ดีดจะเข้ หมื่นตันตริการเจนจิตร์ (สาย ศศิผลิน) เป่าขลุ่ย หลวงบำรุงจิตร์เจริญ (ธูป สาตรวิลัย) ตีฉิ่ง นายจิตร์ เพิ่มกุศล ตีกลอง ส่วนผู้เล่นฆ้องเล็กไม่มีบันทึกไว้ นักร้องหญิงมีด้วยกันหลายคนคือ ครูท้วม ประสิทธิกุล ครูลิ้นจี่ จารุวรรณ ครูเลื่อน สุนทรวาทิน นักร้องชายมีนายเชื้อ นักร้อง ขุนบำเรอจิตร์จรุง (ห่อ คุปตวาทิน) ผู้พากย์โขนคือ จมื่นมานิตย์นเรศร์ (เฉลิม เศวตนันท์) และอื่นๆอีกเป็นอันมาก แผ่นเสียงชุดนี้บันทึกแผ่นขี้ผึ้ง เป็น MASTER เสร็จแล้วส่งไปทำเป็นแผ่นถาวร ส่งกลับมาเป็นตัวอย่างเพียงสามชุด แต่ไม่ครบหมดทุกเพลงที่อัดไป ชุดหนึ่งนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ชุดที่ ๒ ให้ราชบัณฑิตยสภาและชุดที่ ๓ ถวายท่านหญิงพัฒนายุเพื่อลองฟังก่อนแล้วจะส่งทั้งหมดที่เหลือตามหลังอีก ระหว่างรอแผ่นเสียงนี้ก็จัดทำโน๊ตสากลไปด้วย ระหว่างที่งานกำลังค้างอยู่นี้ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในปี ๒๔๗๕ งานทั้งหมดก็หยุดชะงักลง และไม่มีโอกาสได้ทำต่อเพราะเกิดการผันผวนทางการเมือง ต้องแยกย้ายเปลี่ยนหน้าที่และย้ายบ้านเรือนกันยกใหญ่ วังวรดิศก็เงียบเหงา เพราะท่านเจ้าของวังเสด็จไปอยู่ที่ปีนัง ต่อมาก็เกิดสงครามขึ้นในประเทศเยอรมัน การติดต่อขัดข้องไปทุกอย่าง แผ่นเสียงทั้งหมดที่อัดไปแล้วก็ไม่ได้ส่งกลับมาเมืองไทยอีก แม้จะได้พยายามติดต่ออีกหลายครั้งหลายหนก็ไม่มีคำตอบมาในที่สุดจึงทราบว่าโรงงานทำแผ่นเสียงถูกระเบิดทำลายไฟไหม้ทั้งหมด ก็เป็นอันสรุปได้ว่างานที่ท่านหญิงพัฒนายุ และคณะได้ตั้งใจทำอย่างดียิ่งครั้งนั้น ไม่มีอะไรเหลือนอกจากบทร้องซึ่งพิมพ์เอาไว้เท่านั้น โน๊ตสากลก็ไม่เสร็จและแผ่นเสียงตัวอย่างสามชุดที่ได้มาก็แตกหักสูญหายไปสิ้นนับว่าเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเพราะผลงานครั้งนี้เป็นฝีมือชั้นครูจริงๆ สิ่งที่ควรบันทึกไว้ก่อนจบคือ การนับร้องประสานเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีที่บันทึกเสียงครั้งนั้น นับเป็นการขับร้องประกอบดนตรีฝรั่งวงใหญ่แบบตะวันตกครั้งแรกในประวัติศาสตร์การบันทึกเสียงเพลงไทย ที่พระเจนดุริยางค์ (ปิติวาทยะกร)ดำเนินการฝึกซ้อมด้วยตนเอง แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ผลงานนี้มีได้มีโอกาสปรากฏแพร่หลายเลย เกร็ดประวัติในการบันทึกเสียงครั้งนี้ ขอแทรกเรื่องของครูเหนี่ยว ดุริยพันธ์ ไว้ว่าท่านได้เข้ามาเป็นนักร้องวัยรุ่นเสียงดีของกรมมหรสพ ในระยะการซ้อมเพลงตรงนี้พอดี แต่พอจะถึงเวลาบันทึกเสียง ท่านก็แตกวัยหนุ่ม เสียงแตกร้องไม่ได้ จึงต้องอดร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกไปอย่างน่าเสียดาย ท่านหญิงพัฒนายุ ดิศกุล นั้น คงจะเสียดายงานชุดนี้มาก จึงทรงเก็บต้นฉบับบทแผ่นเสียงนั้นไว้เป็นอย่างดี แล้วสั่งเจ้าพี่เจ้าน้องของท่านไว้ว่า เมื่อใดสิ้นพระชนม์ ให้พิมพ์หนังสือแจก เป็นบทแผ่นเสียงดังกล่าว บันทึกฉบับนี้อย่างน้อบที่สุดก็เป็นการแสดงความระลึกในพระคุณของหม่อมเจ้าหญิงพัฒนายุ ดิศกุล และศิลปินทั้งหลาย รายละเอียดท่านจะหาอ่านได้จากหนังสือบทแผ่นเสียงที่พิมพ์แจกในงานพระศพของหม่อมเจ้าหญิงพระองค์นั้นเมื่อ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๒๓
<B>"ถ้าแผ่นดินแรกที่ตั้งไข่ย่ำ เป็นผืนเดียวกับแผ่นดินสุดท้ายที่ดินกลบหน้า...จงกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด"</B>
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
("\(*-*)/")
 
โพสต์: 3005
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 9:04 am
ที่อยู่: พิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย (www.talkingmachine.org)

โพสต์โดย ("\(*-*)/") » ศุกร์ พ.ค. 23, 2008 3:45 pm

ขออนุญาตใช้ฟอนด์ตัวโตนะครับ ลืมมารยาทไปชั่ววูบ เพราะเก็บอาการไม่อยู่จริงๆ รูปภาพ
ดีใจสุดๆ กับของขวัญชิ้นล่าจากคุณ PAO ครับ :cool:
เป็นใบแจ้งความ (โฆษณา) ของห้างรัตนมาลา :-)

ที่สำคัญก็คือ....ใบแจ้งความใบนี้ดันตรงกับแผ่นเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ที่ผมมีจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ฯ พอดิบพอดี :-o

พูดง่ายๆ ผมมีแผ่นตราสุนักข์ (ขอพิมพ์ สุนักข์ ตามใบแจ้งความที่คุณเปาให้มานะครับ) จัดแสดง แต่ผมไม่มีใบแจ้งความที่โชว์กับแผ่นนี้ รูปภาพ
แต่คราวนี้ได้จัดแสดงเข้าคู่กันเป๊ะ เนื้อคู่ กระดูกคู่จริงๆ ขอรับท่าน :-o
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณคร้าบบบบบ :D :D :D รูปภาพ


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
<B>"ถ้าแผ่นดินแรกที่ตั้งไข่ย่ำ เป็นผืนเดียวกับแผ่นดินสุดท้ายที่ดินกลบหน้า...จงกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด"</B>
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
("\(*-*)/")
 
โพสต์: 3005
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 9:04 am
ที่อยู่: พิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย (www.talkingmachine.org)

โพสต์โดย o_PAO » ศุกร์ พ.ค. 23, 2008 4:22 pm

ดีใจครับ ของของผมได้ไปอยู่ในที่ๆควรอยู่แล้ว :cool:
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_PAO
 
โพสต์: 20125
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 08, 2005 6:13 pm
ที่อยู่: 11 หมู่ 2 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม 10520

โพสต์โดย o_ลูกอีช่างเก็บ_80 » ศุกร์ พ.ค. 23, 2008 4:51 pm

:smile: :smile: :smile:
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_ลูกอีช่างเก็บ_80
 
โพสต์: 2635
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 20, 2006 4:12 pm

โพสต์โดย o_lekpn » เสาร์ พ.ค. 24, 2008 9:42 am

อาจารย์น่าจะอัดเป็นซีดี ขายเป็นของที่ระลึกที่พิพิธภัณท์นะครับ จะได้สะสมเป็นคอเลคชั่นเลย :smile: :smile:
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_lekpn
 
โพสต์: 12266
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 08, 2005 8:39 pm
ที่อยู่: 98 ถ.นนทรี ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ

โพสต์โดย ("\(*-*)/") » เสาร์ พ.ค. 24, 2008 1:19 pm

lekpn เขียน:อาจารย์น่าจะอัดเป็นซีดี ขายเป็นของที่ระลึกที่พิพิธภัณท์นะครับ จะได้สะสมเป็นคอเลคชั่นเลย :smile: :smile:


ขอบคุณคร้าบคุณเล็ก :D

แต่เวลาทำอะไรเพื่อหาเงินเข้าพิพิธภัณฑ์ฯ มักโดนคนภายนอกเพ่งเล็งครับ
ทว่าพอเปิดพิพิธภัณฑ์ เจอบิลทั้งค่าแอร์ ค่าไฟ ค่าที่ต้องหาเงินซื้อของมาจัดแสดง ค่าเดินทางออกงานนิทรรศการช่วยรัฐตามคำขอ รวมทั้งค่าผ่อนกู้สร้างตึกที่ต้องจ่ายรายเดือน
ไม่เห็นมีใครมาเพ่งเล็งเลยน่ะคุณเล็ก :arrow:
<B>"ถ้าแผ่นดินแรกที่ตั้งไข่ย่ำ เป็นผืนเดียวกับแผ่นดินสุดท้ายที่ดินกลบหน้า...จงกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด"</B>
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
("\(*-*)/")
 
โพสต์: 3005
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 9:04 am
ที่อยู่: พิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย (www.talkingmachine.org)

โพสต์โดย o_lekpn » เสาร์ พ.ค. 24, 2008 3:26 pm

ผมว่าเรื่องอย่างนี้นะ ขอให้คนวงในเข้าใจก็พอแล้ว ส่วนใครจะเพ่งเล็งก็ช่างเค้าเถอะ พวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เยอะครับ :(

อีกอย่างนึง การเอาแผ่นเสียงมาบันทึกเป็นซีดี เป็นการอนุรักษ์ที่ดีครับ เพราะสามารถเอามาเปิดฟังได้ว่าแผ่นเสียงที่หายากนั้นมันเป็นยังไง ไม่ใช่ได้แต่ดูอย่างเดียว :smile:
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_lekpn
 
โพสต์: 12266
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 08, 2005 8:39 pm
ที่อยู่: 98 ถ.นนทรี ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ

โพสต์โดย ("\(*-*)/") » เสาร์ พ.ค. 24, 2008 3:44 pm

lekpn เขียน:ผมว่าเรื่องอย่างนี้นะ ขอให้คนวงในเข้าใจก็พอแล้ว ส่วนใครจะเพ่งเล็งก็ช่างเค้าเถอะ พวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เยอะครับ :(

อีกอย่างนึง การเอาแผ่นเสียงมาบันทึกเป็นซีดี เป็นการอนุรักษ์ที่ดีครับ เพราะสามารถเอามาเปิดฟังได้ว่าแผ่นเสียงที่หายากนั้นมันเป็นยังไง ไม่ใช่ได้แต่ดูอย่างเดียว :smile:


ตกลงครับคุณเล็ก :)
<B>"ถ้าแผ่นดินแรกที่ตั้งไข่ย่ำ เป็นผืนเดียวกับแผ่นดินสุดท้ายที่ดินกลบหน้า...จงกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด"</B>
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
("\(*-*)/")
 
โพสต์: 3005
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 9:04 am
ที่อยู่: พิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย (www.talkingmachine.org)

โพสต์โดย ("\(*-*)/") » เสาร์ พ.ค. 24, 2008 4:08 pm

วันนี้สุดมหัศจรรย์ (จริงๆ แล้ว พิพิธภัณฑ์ทั้ง 2 แห่ง ต่างมีลางดีตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่ได้รับแผ่นแจ้งความจานเสียงตราสุนักข์ของคุณเปาแล้ว)

เนื่องจากสถานการณ์การเงินผมเข้าขั้นย่ำแย่ เพราะตะลอนออกหาของเข้าพิพิธภัณฑ์บ่อยเกินไป ก็เลยต้องหยุดไม่คิดจะหาของใส่พิพิธภัณฑ์แล้ว เดี๋ยวไม่มีเงินผ่อนตึกที่เปิดพิพิธภัณฑ์ฯ เดี๋ยวมันจะยิ่งไปกันใหญ่

แต่ช่างเหมือนกับผลบุญกุศลที่ผมตั้งใจจะมอบบล๊อคปาเต๊ะเบบี้ให้พิพิธภัณฑ์หนังไทยของคุณโดม สุขวงศ์ สะท้อนกลับมา...

วันนี้ผมได้น้ำใจเอื้ออารีแบบไม่รู้จะกล่าวอย่างไรดี

บุคคลแรกก็คือคุณประวิทย์ผู้มากด้วยน้ำใจจริงๆ โดยพี่ท่านมอบสิ่งที่เห็นอยู่ข้างล่างนี้แก่พิพิธภัณฑ์ธงสยามครับ และบอกว่าให้เอาไว้จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เพราะมีตราประทับสีแดงเป็นรูปช้างเผือกอยู่ด้วย ลองดูปี ร.ศ. ซิครับ? :D

รูปภาพ

บุคคลถัดมา...เป็นบุคคลที่มากด้วยน้ำจิตน้ำใจเช่นกัน แต่พี่ท่านไม่ยอมให้เอ่ยนาม แม้ผมขอชื่อเพื่อพิมพ์ขอบคุณใต้ของที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ก็ตาม พี่ท่านก็ไม่ยอม บอกว่าสิ่งของที่มอบให้นี้ มันเป็นเพียงสิ่งน้อยนิด (แต่สำหรับผม มันไม่น้อยนิดเลยจริงๆ) ผมขอคารวะพี่ท่านไว้ในใจ เมื่อวันใดที่พร้อมเปิดเผยชื่อ ผมจะมาขอบคุณดังๆ อีกครั้งหนึ่ง (บุคคลท่านนี้สนิทกับพี่เปาของเราด้วยครับ)

สิ่งที่พี่ท่านมอบให้ก็คือ...สมุดวาดรูปสมัยรัชกาลที่ 6 ช่วงไทยเปลี่ยนธงชาติจากธงช้างทรงเครื่องเป็นธงไตรรงค์...จึงมีรูปธงทั้งสองบนสมุดวาดรูป ถือเป็นจดหมายเหตุจากอดีตในช่วงเวลานั้นได้ดีจริงๆ เห็นหรือยังครับว่าสำหรับผม... มันไม่น้อยนิดเลยจริงๆ... ขอขอบคุณจากใจในนามพิพิธภัณฑ์ธงสยามและคนไทยทั้งหลายครับ :D

รูปภาพ

รูปภาพ
<B>"ถ้าแผ่นดินแรกที่ตั้งไข่ย่ำ เป็นผืนเดียวกับแผ่นดินสุดท้ายที่ดินกลบหน้า...จงกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด"</B>
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
("\(*-*)/")
 
โพสต์: 3005
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 9:04 am
ที่อยู่: พิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย (www.talkingmachine.org)

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง Retro Society (บอร์ดเก่า)

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน

cron