ผมจำได้ติดตาเลยครับ อ่านออกเขียนได้เพราะพี่จุกนี่แหละ
แต่ที่ประทับใจอีกเล่มนึงคือบทอาขยาน ดอกสร้อยสุภาษิต เล่มนี้นี่เอง
วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่แดนไกล........


livercoke เขียน:
หนังสือเล่มนี้ผมไม่ทันแน่ๆ ครับ...แต่อ้อยควั่นแบบนี้ผมทันครับ...
เด็กต่างจังหวัดรุ่นๆ ผมทันอ้อยแบบนี้..................

cokeyuth เขียน:livercoke เขียน:
หนังสือเล่มนี้ผมไม่ทันแน่ๆ ครับ...แต่อ้อยควั่นแบบนี้ผมทันครับ...
เด็กต่างจังหวัดรุ่นๆ ผมทันอ้อยแบบนี้..................
แม่นแล้ว...เด็กต่างจังหวัดเวลาจะไปดูหนังกลางแปลง ก็จะแวะซื้ออ้อยมาแทะระหว่างชม
ร้านขายอ้อยควั่น ก็มักจะจุด ตะเกียงรั้ว (ตะเกียงที่มีโป๊ะกันลมทำด้วยแก้วมีไส้เป็นฝ้ายแบนๆ มีปุ่มขันใส้ให้ขึ้นลงสูงต่ำตามใจ)...หรือไม่ก็...
ตะเกียงกระป๋องนม (เอาเส้นฝ้ายทำเป็นไส้และใส่น้ำมันก๊าดเป็นเชื้อเพลิง)
และขอตั้งข้อสังเกตไว้อย่างนึง...แม่ค้าอ้อยควั่น หรือ ลูกสาวแม่ค้าอ้อยควั่น มักจะสวยแทบทุกเจ้า รอยยิ้มหวานเจี๊ยบ

บัดนั้นพญาพิเภกยักษี
เห็นพระองค์ทรงโศกโศกี
อสุรีกราบลงกับบาทา
ปิ้มว่าพระลักษณ์สุริยวงศ์
ยังไม่ปลงชีวังสังขา
อันหอกโมกขสักข์อสุรา
พรหมาประสิทธิ์ประสาทไว้....
PAO เขียน:พี่หน่องมาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ เห็นมีแต่พี่ยุทธ

น้ำมะเน็ด เขียน:อะอ้า...ทันๆๆบทนี้ต้องท่องเป็นกันส่วนใหญ่
ลุงโทเบหายไปไหนใครไปตามที
ลองอันนี้ใครทันบ้าง..
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย
ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา
เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา
เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน
[color=blue].................................................



แต่ผมก็เอาหนังสือของพี่ชายมาอ่านประจำครับ ทั้งมานีมานะและดรุณศึกษา

ย้อนกลับไปยัง Retro Society (บอร์ดเก่า)
กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน