lekpn พาทัวร์ เซี่ยงไฮ้ หางโจว ซูโจว อู๋ซี

[o_lekpn]

แหมมาชมกันต่อครับ


ต้นไม้เชพสวยในสวยริมทะเลสาบ



สิงโตหินกะลังเม่อลอย สงสัยคิดถึงแฟน



ถนนในสวย ยามฤดูหนาว ไม่มีใบเหลือเลย



เรือมังกรหิน สร้างขึ้นมาใหม่เพื่อต้อนรับนายเจียง เจ๋อ หมิง สมัยเป็นประธานาธิบดี หมดไปนับล้านหยวน

[o_lekpn]

ออกจากทะเลสาบซีหู ก็ไปชมภูเขาเฟยไหลและไหว้พระที่วัดหลิงอิ่ง วัดที่เคยเป็นที่จำพรรษาของพระอรหันต์จี้กง ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ไม่ยึดติดต่อกฎเกณฑ์ กินเหล้าและเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นข้อห้ามของนักบวช จี้กงกล่าวว่าทุกสิ่งอยู่ที่ใจ


เจดีย์หินแกะสลัก บนภูเขาเฟยไหล ตำนานเล่าว่า พระอรหันต์จี้กงฝันว่าจะมีภูเขาลอยมาจากชมพูทวีปมาทับหมู่บ้านนี้ จึงไปบอกชาวบ้านให้ย้ายหนี แต่ไม่มีใครเชื่อ จี้กงจริงอุ้มเจ้าสาวที่กะลังเข้าพิธีวิ่งหนี ให้ชาวบ้านไล่ตาม จึงรอดตายกันหมด เพราะภูเขาลอยมาทับจริงๆ



ภูเขานี้กล่าวกันว่าจะลอยไปเรื่อย ชาวบ้านจึงแกะสลักพระพุทธรูป 1,250 รูป กระจายทั่วภูเขาเพื่อไม่ให้ไปทำลายหมู่บ้านอื่นๆ รูปแกะสลักนี้คนไทยรู้จักกันดี คือเทพไฉ่สิ่งเอี้ย ปางมหาเศรษฐี ที่วัดในเมืองไทยชอบเอามาสร้างเป็นวัตถุมงคลไงครับ



ต่อมาสมัยปฏิวัติ มาดามเจียงชิง ไม่ให้มีศาสนาจึงสั่งทำลายพระพุทธรูปทั่วประเทศ ปัจจุบันจึงเหลือรูปสลักไม่มากเท่าไหร่ บามิยันเมืองจีนล่ะ

[o_lekpn]

มาถึงวัดหลิงอิ่ง ซึ่งนอกจากเคยเป็นที่จำพรรษาของพระอรหันต์จี้กงแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปไม้สักแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน สูง 66 ฟุต (ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปตามเคย) สวยงามยิ่งใหญ่มาก


ภายในบริเวณวัด มีเรื่องเล่าว่า สมัยเฉียนหลงฮ่องเต้เสด็จประพาสต้นได้เดินทางมาสักการะที่วัดนี้ แต่ว่ามาถึงเย็นไปหน่อย ผู้ติดตามก็เคาะประตูให้เปิด หลวงจีนลูกวัดออกมาบอกว่าปิดแล้วให้มาใหม่วันรุ่งขึ้น ผู้ติดตามเฉียนหลงฮ่องเต้บอกว่าท่านนี้เป็นมหาเศรษฐีจะมาบริจาคเงินจำนวนมาก หลวงจีนลูกวัดจึงไปบอกเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสพูดว่าบ้านมีกฎบ้านเมืองมีกฏเมือง วัดปิดแล้วก็คือปิด ต่อให้ฮ่องเต้มาเองก็เปิดไม่ได้ ผลคืออะไรรู้ไหมครับ



เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงพิโรธจัด มีพระบัญชาสลักบนก้อนหินตั้งไว้หน้าวัดว่า วัดนี้ปิดตลอดกาล ทำให้ทุกวันนี้ต้องเดินเข้าประตูเล็กข้างขวา ออกประตูเล็กข้างซ้าย เพราะพระบัญชาตรัสแล้วไม่มีคืนคำ



หญ้าหนวดมังกร เขาว่าหญ้านี้จะคงสภาพนี้ตลอดไม่ว่าจะฤดูไหน

[o_lekpn]

วิวอีกมุมหนึ่งของวัด



หินแกะสลัก สุดยอดของงานฝีมือ คนจีนชำนาญมากเรื่องการแกะสลักหิน



ไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไร แต่เห็นเค้าชอบใส่เหรียญไว้ตามรูของหินแกะสลัก



บทสวดมนต์แกะสลักบนหิน บางคนก็เอามือมาลูบจนสีลอกหมดแล้ว

[o_superantz]

สวยม๊ากๆ ๆ น่าไปๆ ๆ ครับ

[o_น้ำมะเน็ด]

น่าไปเที่ยวมากๆ...ประตูวัดที่เห็นน่ะประตูเล็กเหรอ

ดูใหญ่โตมากแล้วประตูใหญ่จะแค่อันไหนนี่

ชอบรูปที่นายแบบหัวล้านยืนอ่านบทสวดน่ะ...ดูลงตัวดี

[o_lekpn]

สวยม๊ากๆ ๆ น่าไปๆ ๆ ครับ

ใครไปเที่ยวมาก็อย่าลืมเอารูปมาโพสต์ให้คนอื่นๆได้ชมบ้างนะครับ

น่าไปเที่ยวมากๆ...ประตูวัดที่เห็นน่ะประตูเล็กเหรอ

ภาพนั้นเป็นประตูวิหารครับ

ชอบรูปที่นายแบบหัวล้านยืนอ่านบทสวดน่ะ...ดูลงตัวดี

ผมก็ชอบภาพนี้ครับ ตอนแรกกะว่าจะรอให้เค้าเดินไปก่อน แต่ขี้เกียจรอเลยเอาแบบมีคนนี่แหละ ดูดีกว่าอีก

[o_lekpn]

ออกจากวัดจี้กง ก็ไปชมศูนย์จำหน่ายใบชาหลงจิ่ง คนจันในแถบนี้นิยมกินชาเขียวหลงจิ่ง มากกว่าชาแดงอู่หลงนะครับ ชาในโลกนี้ผลิตจากต้นชาชนิดเดียวกัน ที่ต่างกันคือกรรมวิธีการผลิตครับ ชาเขียวหลงจิ่งคือยอดอ่อนใบชา 3 ใบแรกที่เด็ดด้วยมือของหญิงสาว และนำมาคั่วโดยใช้มือคน เนื่องจากจะได้รู้ถึงความร้อนที่เหมาะสม

ชาเขียวหลงจิ่ง นิยมกินทั้งน้ำและใบ คนจีนนิยมกินน้ำแล้วนำใบไปทำอาหาร หรือจะกินแบบแห้งๆก็ได้รสชาดคล้ายกินเม็ดแตงโมแต่ไม่มันเท่า ชาเขียวมีวิตามินสูง ต้องชงด้วยน้ำร้อนที่ทิ้งไว้ซักพัก ไม่ใช่น้ำเดือด 100 องศา


สาวหมวยมาสาธิตการชงชา และขายชาไปด้วย



ใบชาเขียวยังแบ่งเป็นสามเกรดคือ ธรรมดา เกรดเอ และเกรดเอเอ ที่เห็นในภาพคือ เกรดเอและเกรดเอเอ ชาเขียวที่ดีใบชาจะออกสีเหลืองนะครับ

ต้นชามีอายุยืนมาก บางต้นอายุหลายร้อยปี ยิ่งอายุมากยิ่งเป็นชาที่ดีเลิศซึ่งไม่มีขายครับ เพราะส่งไปให้ท่านผู้นำ แต่ถ้าต้นชาอายุเกิน 500 ปี ถือว่าเป็นมารแล้วกินไม่ได้ครับ

ชาเขียวราคาแพงมากครับ 1 ชั่งประมาณครึ่งกิโล ขายราคา 900 หยวน ถ้าเกรดเอเอ หนึ่งชั่งขาย 1500 หยวน ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่าผมซื้อหรือเปล่า

[o_lekpn]

กองทัพต้องเดินด้วยท้องครับ อิ อิ อิ


มื้อนี้กินค่อนข้างหรูนะ



เป็นภัตตาคารใหญ่โต



มีหูฉลามด้วย

[o_lekpn]

ที่สุดท้ายสำหรับวันนี้ หมู่บ้านจำลองสมัยราชวงศ์ซ่ง ที่นี่แหละครับที่เห็นหวีไม้เป็นครับที่สอง ขายอันละ 20 หยวนต่อแล้วเหลือ 5 อัน 50 หยวน แต่เปลี่ยนใจจะให้เหลือ 5 อัน 40 หยวน แต่ไม่ได้เลยไม่ซื้อ โดนอาหมวยโวยวายนิดหน่อย


แผนที่ทั้งหมด จุดประสงค์ที่มาที่นี่คือ ดูโชว์ครับ



กิเลนหิน หน้าประตูทางเข้า เป็นเอกลักษณ์เด่นสมัยราชวงศ์ซ่งครับ เป็นหนึ่งในลูกของมังกร คนจีนเชื่อว่ามังกรมีลูก 9 ตัวครับ แปลกประหลาดทั้งน้าน



พอโชว์จบแล้ว นักแสดงทั้งหมดออกมายืนโชว์



เพื่อให้ถ่ายรูป ไม่เสียตังค์แฮะ ขนาดรัชดาฯยังเสียเงินเลย แถมมีราคาพิเศษสำหรับจับนม

นักแสดงที่นี่เป็นหญิงแท้นะครับ ไม่เหมือนเมืองไทย แต่โชว์นี่ไม่ใช่คาบาเร่นะครับ เป็นโชว์วัฒนธรรม

[o_lekpn]

เช้าวันใหม่เหมือนเดิม 6 7 8 เพื่อเดินทางไปยังเมืองซูโจว


ถนนหน้าโรงแรม



บ้านชาวนาระหว่างทางไปซูโจว


กวีจีนกล่าวไว้ว่า บนฟ้ามีสวรรค์ บนแผ่นดินมีซูหาง ก็คือหมายถึงหางโจว และซูโจวมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับสวรรค์



ที่แรกที่เรามาเยือนซูโจวนี้คือ วัดซีหยวน เดิมเป็นบริเวณหลังบ้านของท่านเศรษฐีหลิวหยวน ซึ่งบ้านของท่านมีสวนที่มีชื่อเสียงและกลางเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก้ด้วย



อันนี้ให้ทายว่าเค้าพันต้นไม้ด้วยเชือกไว้ทำไมครับ อย่าคิดซับซ้อนนะครับ



ด้านในของวัดซีหยวน

[o_lekpn]

วิหารและหลวงจีน เข้ากั๊นเข้ากัน



อีกมุมหนึ่ง



ถึงเวลากินอีกแล้ว เย่ๆๆ ด้านหน้าของภัตตาคาร



ฝูงปลาแวกว่าย ในสระสวนแบบจีนหน้าภัตตาคาร



ที่ทำการไปรษณีย์ของจีน ใช้สีเขียวอ่ะ

[o__Sam]

ดูท่าทาง อากาศจะเย็นสบายดีนะครับ แอบอิจฉา ตาร้อน

[o_lekpn]

ดูท่าทาง อากาศจะเย็นสบายดีนะครับ แอบอิจฉา ตาร้อน

เย็นสบายครับ อากาศแบบนี้ผมชอบได้ใส่เสื้อหนาวด้วย อยู่เมืองไทยร้อนตับแตก เมื่อไหร่โลกจะกลับตาลปัตรบ้างน้า

[o_lekpn]

มาดูกันต่อครับ

หลังจากรับประมานอาหารกันเรียบร้อยแล้วก็ไปชมสวนแบบจีนที่บ้านของเศรษฐีหลิวหยวน สวนนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้เรียบร้อยแล้ว ในซูโจวมีสวนแบบนี้มากมายนับร้อยแห่ง


ด้านหน้าของทางเข้าบ้านเศรษฐี



เมื่อเห็นสวนก็ตะลึงในความงาม เพราะอากาศหนาวหมอกลง เลยเหมือนฝัน



สถาปัตยกรรมจีนนี่สวยจัง เข้ากะบรรยากาศ



ต้นจิงโกะ หรือ แป๊ะก้วย ต้นนี้อายุนับร้อยปีแล้ว ใหญ่มาก