รูปนี้เป็นรูปของพระองค์ใด

[explorer1655]

รบกวนผู้รู้ด้วยครับว่าเป็นรูปของพระองค์ใดทราบแต่ว่าเป็นรูปแท้ถ่ายช่วงปี คส1890 และมีภาษาอังกฤษ์เขียนเพียงว่า Crown Prince of Siam

[img][img]http://i215.photobucket.com/albums/cc261/cafecasta/unkprince.jpg[/img]

[/img]

[o_ต่อ tapae inn]

คิดเหมือนกะ จืด เมื่อกี้ search ไปดูเจอรูปท่านตอนแก่ เลยไม่แน่ใจ

[Aphiyut]

เป็นพระรูปของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4 และเป็นพระอนุชาในรัชกาลที่ 5 พระสมัญญานามที่พระองค์ได้รับคือ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย

[superpunch]

ลองเทียบเคียงแล้วน่าจะเป็นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ นะครับ

[explorer1655]

ขอบคุณทุกๆท่านด้วยครับสำหรับความคิดเห็น ผมว่าก็น่าจะใช่ครับรูปจริงสวยคมชัดมากๆต้องรีบนำไปใส่กรอบก่อน

[("\(*-*)/")]

ภาพสวยมากจริงๆ ครับ



ภาพถ่ายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายกับสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในงานวัดเบญจมบพิตร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗



ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งเป็นสิ่งของที่สมเด็จฯ ทรงโปรด เป็นต้นว่า หีบเสียง กล้องถ่ายรูปและหมวก



ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงถ่ายพระธิดาและเด็กๆ กับ หีบเสียง ที่ทรงโปรด ในวังวรดิศ ปลายสมัยรัชกาลที่ ๕

[explorer1655]

ขอบคุณครับอาจารย์ รูปเสด็จพ่อของจารย์สวยดีอ่ะครับแถมมีลายเซ็นด้วย คู่นี้เพิ่งได้มาไม่นานเจ้าของเก่าเก็บได้สุดยอดมาก [img][img]http://i215.photobucket.com/albums/cc261/cafecasta/rama5a.jpg[/img][/img]

[("\(*-*)/")]

ขอบคุณครับอาจารย์ รูปเสด็จพ่อของจารย์สวยดีอ่ะครับแถมมีลายเซ็นต์ด้วย คู่นี้เพิ่งได้มาไม่นานเจ้าของเก่าเก็บได้สุดยอดมาก [img][img]http://i215.photobucket.com/albums/cc261/cafecasta/rama5a.jpg[/img][/img]

แบบนี้ภาษาปะกิตเขาเรียกระดับ "มาสเตอร์พีซ" แล้วขอรับ
น้อยคนที่จะได้เป็นเจ้าของงานสะสมแบบนี้ ขอคารวะ 3 จอก

[o_K_chang]

รบกวนผู้รู้ด้วยครับว่าเป็นรูปของพระองค์ใดทราบแต่ว่าเป็นรูปแท้ถ่ายช่วงปี คส1890 และมีภาษาอังกฤษ์เขียนเพียงว่า Crown Prince of Siam

ทำไมถึงเรียกว่าเป็นยศ Crown prince ล่ะครับ

[o_kandahar]

จากพระรูปสมเด็จกรม ฯ ดำรง ฯ นั้น

พระรูปนี้ฉายขณะทรงพระยศกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ

คือระหว่าง พุทธศักราช ๒๔๒๙-๒๔๔๒

ผมตั้งข้อสันนิษฐานนี้อย่างไร หลายท่านอาจสงสัยอยู่เป็นแน่

ข้อสันนิษฐานดังกล่าวมีที่มาจากการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ทรงอยู่นั่นเองครับ

เราจะเห็นได้ว่าในพระรูป

ทรงสายสะพายมหาจักรี ทรงสายสร้อยมหาจักรีและประดับจักรีดาราที่เห็นดวงบนสุด

บน อกฉลองพระองค์ ถัดมาทรงดาราทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ มหาวราภรณ์และมหาสุราภรณ์

ไปตามลำดับ จากชุดเครื่องราชอิสริยาภรณ์เหล่านี้จึงทำให้ระบุได้ว่า

พระรูปนี้น่าจะฉายในช่วงปี พศ. ดังกล่าวมาข้างต้น


โดยรายละเอียดเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นดังนี้ครับ

พ.ศ.๒๔๒๓ ทรงรับตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๔ และทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ

พ.ศ.๒๔๒๙ ทรงรับตรามหาจักรีบรมราชวงศ์ และจุลสุราภรณ์

พ.ศ.๒๔๓๑ ทรงรับตรามหาสุราภรณ์

พ.ศ.๒๔๓๓ ทรงรับเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยาทอง และจุลวราภรณ์

พ.ศ.๒๔๓๖ ทรงรับตราปฐมจุลจอมเกล้า, เหรียญดุษฎีมาลา เข็มราชการแผ่นดิน,

มหาวราภรณ์ และเหรียญจักรมาลา


ต่อมา ผมตัด พศ.ให้แคบลงอีกคือ เหลือแค่ช่วง พศ.๒๔๒๙-๒๔๓๖ เป็นหลัก

เนื่องจากอยู่ในช่วงปีที่ทรงได้ตรามหาจักรีจนถึงตรามหาวราภรณ์

ซึ่งเป็นตราที่ทรงได้รับล่าสุดและประดับฉายพระรูปนี้ออกมา

ดังนั้น จากหลักฐานที่ปรากฏในพระรูปจึงทำให้ระบุได้ว่า

พระรูปนี้ เป็นพระรูปสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

ฉายขณะทรงพระยศ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ (๒๔๒๙-๒๔๔๒)

โดยระยะเวลาที่ฉายพระรูปนี้คือ ราวปี พศ..๒๔๒๙-๒๔๓๖ ตามหลักฐานที่ปรากฏในพระรูป

เมื่อประกอบกันเข้ากับที่ท่านเจ้าของกระทู้กล่าวไว้ว่าเป็นปี คศ.1890

ก็ย่อมตรงกับ พศ.๒๔๓๓ เป็นที่แน่นอน

และยืนยันอย่างชัดเจนว่า ปีที่กล่าวถึงนั้น ถูกต้องและไม่คลาดเคลื่อนไปเลยครับ


ในประเด็นที่ว่าทรงเป็นคราวน์ ปรินซ์ ได้อย่างไรนั้น

ผมสันนิษฐานว่า พระอิศริยศพระเจ้าน้องยาเธอ ต่างกรม คำฝรั่งคงอธิบายได้ค่อนข้างยาก

เพื่อเป็นการตัดปัญหา ช่างภาพฝรั่งสมัยนั้น ก็อาจใช้คราวน์ ปรินซ์ไปเสีย

ทำให้ง่ายต่อการเข้าใจ และความสะดวกในการบรรยาภาพกระมังครับ


ทั้งหมดเป็นแต่เพียงข้อสันนิษฐานตามหลักฐานที่ปรากฏทั้งสิ้นครับ


การจะถูกผิดประการไรนั้น ต้องอภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ


ขอบคุณครับ

[o_cokeyuth]

อ่านขาด

[o_kandahar]

แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่สมเด็จ ฯ กรม ฯ ดำรง ฯ ทรงนะครับ

เมื่อเช้ามานั่งคิดว่า ไม่น่าจะทรงตรามหาวราภรณ์ไปได้ เนื่องจากทรงรับในปี พศ.๒๔๓๖

ซึ่งในปีนั้นทรงได้รับตราปฐมจุลจอมเกล้าด้วย โดยหากทรงได้รับตราปฐมจุลจอมเกล้าแล้ว

ก็ย่อมต้องทรงดาราปฐมจุลจอมเกล้าที่เป็นดวงเงินแปดแฉก ทองแปดแฉก

และอาจทรงสายสร้อยจุลจอมเกล้าบนพระอังสา (บ่า) ไปเสียทีเดียว

ไม่ทรงประดับดาราทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษดังที่ปรากฏในพระรูปแน่นอน

ดังนั้นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ทรงประดับฉายพระรูป จึงเป็น

มหาจักรีบรมราชวงศ์ ๑

ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ๑

มหาสุราภรณ์ ๑ และ

จุลวราภรณ์ ๑

รวมสี่สกุลครับ โดยมหาวราภรณ์คือ ประถมาภรณ์มงกุฏไทย

และ จุลวราภรณ์คือ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือกในปัจจุบันนั่นเอง

ดาราติดอกเสื้อของจุลสุราภรณ์-มหาวราภรณ์ จะมีลักษณะเช่นเดียวกัน และ

ดาราติดอกเสื้อของจุลวราภรณ์-มหาวราภรณ์ จะมีลักษณะเช่นเดียวกัน

ดังนั้นหากไม่สวมสายสะพายหรือดาราคล้องคอ ก็ไม่สามารถแยกได้เลยว่า

ทรงประดับในชั้นตราใด นอกจากดูตามปีที่ได้รับพระราชทานและอ้างอิงกับตราอื่น ๆ

อย่างในภาพพระรูปนั้นประดับดาราทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ โดยไม่ทรงดวงตราคล้องพระศอ

จึงทำให้ต้องมาปรับข้อสันนิษฐานกันใหม่ซึ่งอ้างอิงตามลักษณะที่ทรงแต่ดารา

ไม่ทรงตราคล้องพระศอนั่นเองครับ

ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นั้น คงเป็นไปตามที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง



ในส่วนของพระบรมรูปรัชกาลที่ห้าทั้งสองรูปนั้น

ดูจากลักษณะแล้ว ไม่ใช่พระบรมฉายาลักษณ์ที่เป็นรูปถ่ายแน่ครับ

หากแต่เป็นของที่ "เก๋า" กว่านั้น คือ เป็นภาพพิมพ์หิน

ภาพพิมพ์หินเหล่านี้ มีทั้งที่ทำจากเยอรมันและฝรั่งเศส

อย่างพระบรมรูปที่นำมาลงไว้นั้นฝีมือคล้ายกับเมอร์ซิเยอร์ กาโรลัส ดูห์ราง มากทีเดียวครับ

แต่ผมไม่เห็นรายละเอียดอื่นใดที่เป็นอักษรและลายลักษณ์ตัวจิ๋ว ๆ ที่ช่างมักซ่อนไว้


อีกอย่างหนึ่ง ตัวหนังสือที่อยู่ใต้ภาพและเขียนด้วยดินสอนั้นไม่ใช่ลายเซนต์นะครับ

แต่ว่าเป็นวันเดือนปีซึ่งเป็นคริสตศักราช บอกเวลาที่พิมพ์พระบรมรูปนี้ออกมา

โดยในพระบรมรูประบุว่า 18 . 8 . 07

ซึ่งก็คือวันที่ ๑๘ เดือนสิงหาคม พศ. ๒๔๕๐ รศ. ๑๒๖ ปีที่ ๔๐ ในรัชกาล

ปี ๒๔๕๐ นี้ มีสิ่งต่าง ๆ ซึ่งทรงโปรดให้ทำจากยุโรปเข้ามาในราชสำนักสยามมาก

เนื่องเพราะเป็นปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ๔๐ เสมอด้วยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ฯ

และยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์ในจักรีวงศ์ทุกพระองค์

ปีนั้นมีการฉลองใหญ่ มีของพระราชทานจากยุโรปเข้ามามากครับ มากจริง ๆ

เท่าที่เคยทำรายการถวายสมเด็จพระเทพ ฯ มีเกินร้อยอย่าง

ยังไม่รู้ว่ามีที่ยังหาไม่เจออีกกี่สิ่งด้วยซ้ำครับ

พระบรมรูปพิมพ์หินเหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในของที่เข้ามาในตอนนั้นครับ

โดยมากผู้รักษามักเก็บไว้ได้ไม่ดี รักษาไม่เป็น เมืองไทยมีความชื้นมาก

ประกอบกับหมึกพิมพ์เป็นกรด นานไปมักมีปัญหากินกระดาษด้วยตัวมันเอง

สุดท้ายแล้วภาพพิมพ์หินเหล่านี้ ไม่ใคร่เหลือที่มีชิ้นดีครับ ป่น กรอบ หัก ขาด ทะลุ เสียมาก

พระบรมรูปพิมพ์หินคู่นี้ จัดว่าสมบูรณ์เยี่ยม พอกับที่คงคลังในเลยทีเดียว

เก็บดี ๆ นะครับ หายาก และ"เก๋า" กว่าภาพถ่ายมากนัก


มีสิ่งใดให้ผมช่วยเหลือได้ บอกได้เสมอนะครับ

ยินดีช่วยอย่างเต็มที่


การจะถูกผิดประการไรนั้น ต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ

[o_ต่อ tapae inn]

ขอบคุณมากๆครับ สำหรับ ความรุ้ที่มอบให้

[Heineken Man]

พระฉายาลักษณ์หันพระพักตร์ ........ ด้านเดียวกันครับ

[thaihunter]

สุดยอด กรูรู