หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ร้านซักรีดที่เคยหล่อเลี้ยงทุกชีวิตในบ้าน

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 10:44 am
โดย man5baht
ก๊อบจากในบล๊อกมานะครับ อิอิ :D :D

ร้านซักรีดที่ว่านี้ก็คือบ้านเก่าของผมเองครับ ชื่อร้าน เซ่เหย่นติน อยู่ที่ชุมชนหลังโรงพยาบาลวชิร ถนนสุโขทัย อยู่ติดกับวังสุโขทัยสามเสนยังไงล่ะครับ แต่ปัจจุบันไม่มีบ้านหลังนี้แล้วครับ เพราะถูกเวณคืนที่โดยสำนักงานทระพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ผมอยู่ที่บ้านหลังนั้นมาตั้งแต่เกิด จนถึงปี พ.ศ. 2537 ก็ย้ายกันออกมาครับ โดยที่บ้านหลังเก่านั้นเปิดเป็นร้านซักรีด ตั้งแต่สมัยที่ย่าผมยังสาว (คนแถวนั้นเรียกโต้ซักรีด) ป๊ากับอายังเด็กๆ อาๆทั้งหลายก็ต้องตื่นแต่เช้ามาซักผ้า ที่คนในชุมชนแถวนั้นมาส่งให้ซัก ด้านบนของบ้านชั้นสองจะต่อเติมเป็นเพิงไม้อาไว้ตากผ้า ผมเคยขึ้นไปเล่นกับพี่ชายผมกระโดดเล่นกันสะเทือนจนสังกะสีแทบพัง ฮาๆ แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของบ้าน (โอว..วิชาการมาก) ก็ยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง ปัจจุบันไม่ได้เปิดแล้วครับ เลิกกิจการตั้งแต่ย้ายบ้านออกมา ส่วนหลักฐานที่ผมไปเจอมาชิ้นแรกจากการไปรื้อโต๊ะเครื่องแป้งของย่าผมก็คือ ตั๋วของร้านครับ เหลืออยู่ปึกนึงประมาณห้าสิบกว่าใบ อายุโดยประมาณไม่เท่าอายุผมก็มากกว่าผมน่ะแหละ

รูปภาพ

อ่ะมาสแกนดูกันชัดๆเลยดีกว่า

รูปภาพ

แต่ในตั๋วนี้ผมชอบอยู่ประโยคนึงคือ จำตั๋วไม่จำคน ฮาๆ

ส่วนป้ายของร้านจะมีอยู่สองรุ่น เอารุ่นที่ผมเห็นตั้งแต่จำความได้ก่อนล่ะกันครับ จะเป็นอะคริลิคติดตัวหนังสือ

รูปภาพ

ผมก็เลยลองไปค้นดูจากอัลบั้มรูปเก่าๆคิดว่าน่าจะมีภาพที่ถ่ายอยู่หน้าบ้านโดยเห็นป้ายนี้อยู่ก็ไปค้นเจอเพียงรูปเดียว

รูปภาพ

รูปนี้ถ่ายเมื่อ 16 สิงหาคม 2535 คนซ้ายผมเอง(ตอนนั้น 10ขวบ) คนขวาพี่ชายผม ส่วนตู้สองใบที่อยู่ทางฝั่งซ้ายและขวาคือตู้เสื้อผ้าที่เอาไว้ใส่เสื้อผ้าของคนที่มาใช้บริการที่ร้าน ปัจจุบันตู้นี้ ถูกชำแหละ เป็น โต๊ะ ตู้ เตียง ต่างๆไปแล้ว รวมทั้งบางส่วนก็เอามาทำตู้ของเล่นของผม เสื่อ กับมอเตอร์ไซยามาฮ่าเบล ทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่นะครับ ยังอัดได้เกือบร้อยอยู่เลย ส่วนดรีม(ที่เห็นแต่เบาะ) ทุกวันี้ป๊าผมก็ยังใช้อยู่

ป้ายต่อมา อันนี้รุ่นเก่าครับ ผมเกิดไม่ทันจริงๆ เป็นแผ่นไม้ เขียนด้วยสีแดง

รูปภาพ

จากนั้นก็ผมก็ไปรื้อดูรูปเก่าๆอีกล่ะ เผื่อจะเห็นป้ายนี้บ้าง ก็ไปเจออยู่สองรูปครับ แต่เห็นแค่นิดเดียวเอง ผมใช้ photoshop ปรับสีเอาน่ะครับ เพราะภาพเก่ามากๆสีส้มแดงๆ

รูปภาพ

รูปภาพ


ลองสังเกตที่มุมซ้ายบนของรูปดีๆสิครับ จะเห็นป้ายอยู่ ส่วนในภาพเด็กสามคนข้างหน้าไม่รู้ใคร ส่วนด้านหลังซ้าย ย่าผม ถัดมาก็อาผมทั้งสองคน ทุกวันนี้ป้ายทั้งสองอันก็ติดอยู่ที่ฝาผนังบ้านที่ผมอยู่ปัจจุบันนี่แหละครับ

รูปภาพ

ที่นั่งอยู่ด้านหลังก็ย่าผมเอง ข้างๆก็จะเป็นโต๊ะรีดผ้าลองดูข้างๆตัวย่าผมดีๆ จะเห็นเตารีดอยู่นะครับ ถ้าเทียบกับภาพบนแล้ว โต๊ะรีดผ้าจะเป็นไม้อยู่ แต่ภาพนี้เป็นเหล็กฉาก ส่วนที่รองรีดก็เป็นผ้าดิบ สองภาพบนถ่ายมื่อปี 2521

ร้านซักรีดก็ต้องมีเตารีดใช่ไหมครับ ผมไปควานหาจนเจอล่ะ ไปเจอแอบซ่อนอยู่ในห้องพระน่ะเอง เป็นเหล็กอ่ะครับ ด้านจับเป็นไม้

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

น้ำหนักชั่งได้ 7 กิโลพอดี (ย่าผมบอกว่าแขนขวาใหญ่กว่าซ้ายเพราะยกรีดทุกวัน)หนักเหมือนกันนะเนี่ยถ้าหลุดตกใส่ขาล่ะไม่อยากจะคิดเหล็กทั้งดุ้น ตันๆไม่มีกลวง วิธีใช้ก็เอาไปวางในเตาถ่านครับ รอให้ร้อนๆได้ที่ ก็เอามานาบกับใบตองก่อน เพื่อให้ลดความร้อนลงและให้รีดได้ลื่นขึ้น

นี่แหละครับ ร้านซักรีดที่เคยหล่อเลี้ยงทุกชีวิตในบ้าน แม้ว่าจะมีหลักฐานหลงเหลืออยู่น้อยนิด แต่อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ฟัง ได้ดูและรับรู้ถึงประวัติศาสตร์ของบ้านเรา ของครอบครัวเราเอง ...................

จบล่ะคร๊าบ

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 11:14 am
โดย o_lekpn
เยี่ยมครับ ศึกษาประวัติของครอบครัว แถมยังเหลือหลักฐานอีกเพียบ :smile: :smile: :smile:

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 11:28 am
โดย sermsoon
สงสัยจะเป็นแพทเทิร์นของร้านซักแห้งคนจีนเลยนะ ที่ว่า จำตั๋วไม่จำคน
ร้านซักแห้งข้างบ้านผมตอนสมัยราว พ.ศ. 2508 ก็ใช้คำนี้ในใบรับผ้า
น่าจะแปลมาจากภาษาจีน ซึ่งเดาเอาว่า หยิ่งตัวบ่อหยิ่งนั้ง (คำ ตัว ทำเสียงขึ้นจมูกด้วย)

แม้บางส่วนจะเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัว ก็ยังน่าสนใจครับ
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เรื่องเล่าประกอบภาพสั้นๆ เรื่องนี้
เต็มเปี่ยมไปด้วย ความภาคภูมิใจ ในชาติตระกูลและสัมมาชีพจริงๆ ครับ

:smile:

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 11:49 am
โดย o_gb64_64
สุดยอดความทรงจำในวัยเด็กอีก 1 ความทรงจำ

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 7:49 pm
โดย love_Heineken
เรื่องราวสั้นๆ แต่เล่าเรื่องได้เยี่ยมเลยครับ :smile:

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 8:28 pm
โดย notest
คลาสสิคดีครับ ทั้งเรื่องทั้งของ
ว่าแต่ไม่เอาของในตู้มาโชว์บ้างเหรอครับ

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 9:53 pm
โดย o_น้ำมะเน็ด
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นดีจัง ความหลังสมัยเด็กๆนี่ คงเป็นกันทุกคน ยิ่งนึกถึงยิ่งสุขใจ :smile:

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 10:00 pm
โดย o_PAO
อ่านไล่ลงมา พอเห็นเตารีดเล่นเอาขนลุกเลยครับ น่าภูมิใจในอาชีพจริงๆ :smile:

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 10:40 pm
โดย o_น้ำมะเน็ด
พูดถึงแถวๆบ้านเก่าคุณman5baht คงไม่ใกลท่าน้ำสามเสน ตอนเด็กๆพ่อชอบพาไปกินข้าวต้มปลาเจ้าเก่า ขายมาน่าจะไม่ต่ำกว่า 40 ปี :smile:
หลังจากนั้นก็ไม่เคยไปอีกนานแต่เมื่อหลายปีก่อน ผ่านไปนึกถึงเลยแวบเข้าไปดูว่ายังมีขายอยู่หรือเปล่า สรุปว่ายังมีอยู่แต่อาแปะคงไม่อยู่แล้วเห็นแต่คนรุ่นหลัง ใครผ่านตอนค่ำๆแวะไปชิมดูนะ :smile:

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 11:01 pm
โดย man5baht
น้ำมะเน็ด เขียน:พูดถึงแถวๆบ้านเก่าคุณman5baht คงไม่ใกลท่าน้ำสามเสน ตอนเด็กๆพ่อชอบพาไปกินข้าวต้มปลาเจ้าเก่า ขายมาน่าจะไม่ต่ำกว่า 40 ปี :smile:
หลังจากนั้นก็ไม่เคยไปอีกนานแต่เมื่อหลายปีก่อน ผ่านไปนึกถึงเลยแวบเข้าไปดูว่ายังมีขายอยู่หรือเปล่า สรุปว่ายังมีอยู่แต่อาแปะคงไม่อยู่แล้วเห็นแต่คนรุ่นหลัง ใครผ่านตอนค่ำๆแวะไปชิมดูนะ :smile:


ใช่เลยครับ :smile: ส่วนบ้านของผมจะอยู่ใกล้ๆกับตรงสามแยกที่เลี้ยวซ้ายเข้าชุมชนน่ะครับ (ถ้าเลี้ยวขวาไปถนนสามเสน) ห่างจากแยกประมาณ 20 เมตร ตอนนี้ไม่มีแล้ว :-o แต่ยังเหลือร้านของชำอยู่ตรงหัวมุมสามแยก :D :D

ส่วนข้ามต้มปลา อร่อยมากครับ ตอนนี้ก็ขายอยู่ :smile:

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 11:57 pm
โดย o_Livercoke
ความทรงจำสีเข้มๆ ของคุณแมน5บาท เยี่ยมเลยครับ :smile: :smile: :smile:

โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 05, 2007 9:05 am
โดย glassdream
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลยค่ะ อดภูมิใจคุณย่าของคุณman5bahtไม่ได้เลยค่ะ ท่านเยี่ยมมากๆ
นับถือค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่นำมาแบ่งปันนะค่ะ ของเก่าๆอาจดูไม่มีค่ามีราคาในสายตา
ของใครบางคน แต่มันจะมีค่าและมีความหมายมากมายสำหรับคนที่มีความผูกพันและ
ความทรงจำที่มีอยู่กับของเก่าเหล่านั้นมากกว่าที่จะซื้อหาได้ด้วยเงินนะค่ะ :?

โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 05, 2007 10:14 am
โดย o__Sam
บรรยายซะเห็นภาพเลยครับ :D

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 01, 2009 2:02 pm
โดย osnail
8)

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 03, 2009 10:30 pm
โดย o_BABY BOOMER
หัวเรื่องโดนใจ อ่านแล้วนึกถึงการเขียนเรียงความส่งคุณครูตอนเด็กๆ :smile: