หน้า 1 จากทั้งหมด 4

ตังเมหลอด..ครับ..ตังเมหลอด

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 5:29 pm
โดย o_cokeyuth
มีใครเคยกิน"ตังเมหลอด"บ้างครับ?
ผมเคยกินตังเมหลอด ครั้งสุดท้ายเมื่อ ยี่สิบปีมาแล้ว
เพิ่งมาเจอ "เพื่อนเก่า" คือ เจ้าตังเมหลอดแสนอร่อย ที่เมืองตราดในวันนี้เอง

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 5:42 pm
โดย o_cokeyuth
สำหรับ น้องๆ หลานๆ ที่เกิดไม่ทัน "ตังเมหลอด"
ก็ล้อมวงเข้ามา ผมจะเล่าให้ฟัง.......

ในสมัยก่อน พวกขนมห่อ ไม่ค่อยมี พวกขนมปังเวเฟ่อร์เคลือบช๊อคโกแล๊ต ก็ยังไม่มี
ขนมหวานบ้านๆ ขวัญใจเด็กๆ เห็นจะมี ตระกูล ตังเม เป็นพระเอก

ตังเมแบบเหลว ตาแป๊ะจะหาบมา พร้อมกับกรรไกรอันนึง ไม้เสียบอันนึง
แล้วแกก็จะทำให้ตังเมมันร้อนขึ้นนิดๆ ให้กึ่งแข็งกึ่งเหลว ให้มันหนืดๆ
แล้วก็ใช้ความเร็วในการประดิษฐ์ตังเมหนืดๆให้เป็นรูปต่างๆ
รูปฮิต เรตติ้งสูงสุด เห็นจะได้แก่ รูปลิงนั่งอยู่บนปลายไม้แล้วถือเบ็ดตกปลา
หรืออาจจะทำรูปอื่นๆ ตามแต่เด็กๆจะร้องขอ
ถ้าวิจิตรพิศดาร ก็แพงหน่อยละ

ตาแป๊ะที่ไม่ค่อยเก่งทางประดิษฐ์ แกก็จะมีแม่พิมพ์ติดมือมาด้วย
เอาตังเมใส่พิมพ์รูป ฝักข้าวโพดบ้าง รูปลูกน้อยหน่าบ้าง แล้วปั๊มลมเข้าไปในพิมพ์
เปิดออกมาก็ได้ข้าวโพดที่ทำจากตังเม เอามาปะติดบนไม้ด้วยตังเมเหลว พอแปะปุ๊ป มันก็ติดปั๊บเหมือนติดกาว

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 6:02 pm
โดย o_cokeyuth
แม้ลีลาของ ตาแป๊ะ ตังเมเหลว จะเสกสัตว์รูปต่างๆได้ตามแรงเชียร์ของเด็กๆ
แต่ "ขนมตังเมเหลว" มันก็ สวยแต่รูป จูบไม่หอม
ก็เลยเป็นช่องว่างให้ พ่อค้าตังเมอีกคนหนึ่ง แม้ลีลาจะสู้เขาไม่ได้ แต่รสชาติรับรองกินขาด

พ่อค้าคนนี้คือ พ่อค้า "ตังเมหลอด"
แกอาจจะไม่มีจุดดึงดูด เหมือนอย่าง ตังเมเหลว ที่ผลิต ลิงตกปลา ออกมานั่งโชว์
พ่อค้าตังเมหลอดจึงมักจะต้องร้องขาย....
แถวบ้านผม จะร้องว่า "ตังเมหลอด...ครับ....ตังเมหลอด"
แถมปิดท้ายด้วยท่อนฮุคว่า..."อร่อยที่ซู้ด" :lol:
รสชาติของตังเมหลอด มีจุดพิฆาต ตังเมเหลว ก็คือ การสอดไส้ถั่วลิสง เอาไว้ตรงกลาง
ดังนั้นจึงออกเป็น รสหวานมันปนกันอย่างกลมกล่อม

ณ พ.ศ.นี้ พ่อค้าตังเมหลอดภาคกลางไม่ค่อยจะได้เห็นกันแล้ว
เพิ่งจะมาเจอ ตังเมหลอด ของพี่สุวัฒน์ ที่ตลาดตราด วันนี้เอง
พี่สุวัฒน์เล่าว่า คนรุ่นใหม่ ไม่ค่อยมีใครอยากสืบทอดอาชีพนี้ เพราะมันไม่โก้
ว่าพลางแกก็ค่อยๆยืดตังเม แล้วเอากรรไกรมาตัดและห่อให้ลูกค้า
ฝีตะไกรของพี่ สุดยอดจริงๆครับ
เหมือนหนังจีน ที่จอมยุทธเมื่อตวัดกระบี่ เพียงพริบตาเดียว
พี่สุวัฒน์ของผม แกตวัดตะไกร พริบตาเดียว ได้ตังเมหลอดออกมาได้ตั้งเป็นสิบแท่ง
แท่งละห้าบาทล่ะครับพี่น้อง ตวัดพริบตาละห้าสิบบาท
โอ้!พระเจ้า......มันเยี่ยมมากใช่ไหมล่ะ จอร์จ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 6:05 pm
โดย o_ThaiJack
ผมเคยกิน ที่ สุโขทัย ครับ แต่ที่สุโขทัย พอตัดเสร็จ จะห่อด้วยใบตอง จะมาขายพร้อมกับไอติม ที่ใช้มีตัด และโรตีสายไหม ที่ต้องแลกเหรียญแล้วไปหยอดที่เครื่องแล้วเข็มไปหยุดตรงตัวเลขไหนแล้วจะได้ จำนวนโรตี ตามนั้น :lol:

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 6:12 pm
โดย o_cokeyuth
แกตวัดตะไกรได้ตังเมหลอดทีละสิบอันๆๆ
ดูไปเรื่อยๆ แป๊ปเดียวก็ขายหมด
วันศุกร์พี่สุวัฒน์จะมาขายที่ ตลาดตราด
วันเสาร์ อาทิตย์ เดินสายไปขายที่ตลาดพลอยเมืองจันทบุรี
และนานๆครั้ง แกอาจจะเดินสายไปถึงเมืองชลบุรี

แต่อย่างไรเสีย แกก็วนเวียนอยู่แถวๆตราด เพราะแกเป็นคนเมืองตราดนั่นเอง
แกบอกว่า แฟนๆตังเมหลอดรู้จักตังเมของแกในนาม "ตังเมหลอดจินดา"

รูปภาพ

ขออภัยที่ภาพสุดท้าย ภาพนี้
อาจทำให้ท่านมองตังเมหลอดไม่ค่อยชัด
เนื่องจาก รังสีเพชรและ ทอง มันสะท้อนแฟลชครับ
รูปภาพ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 6:14 pm
โดย ton...(+_+)
อยากกินเลยครับ แต่กินทีนี่ติดฟันมากๆๆ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 6:17 pm
โดย o_cokeyuth
ThaiJack เขียน:ผมเคยกิน ที่ สุโขทัย ครับ แต่ที่สุโขทัย พอตัดเสร็จ จะห่อด้วยใบตอง จะมาขายพร้อมกับไอติม ที่ใช้มีตัด และโรตีสายไหม ที่ต้องแลกเหรียญแล้วไปหยอดที่เครื่องแล้วเข็มไปหยุดตรงตัวเลขไหนแล้วจะได้ จำนวนโรตี ตามนั้น :lol:


เดี๋ยวนี้ที่อยุธยา ย่านโรงพยาบาล
มีร้านขายโรตีสายไหม เป็นของฝาก
ถึงขนาดต้องออกบัตรคิวเลยครับ คุณแจ๊ค

ไอ้ที่จะละเลียด กินแล้วลุ้นๆ อย่างสมัยก่อนคงไม่มีอีกแล้ว
ผมเคยเอาเหรียญไปจี้มอเตอร์ให้เข็มปั่นได้มากสุดแค่ ห้าอัน

ถ้าเป็นสมัยนี้....เด็กๆเขาคงคิดตำราโกงเกมส์ หยอดเหรียญสายไหม ออกมาขายแน่ๆ :lol:

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 6:23 pm
โดย o_ThaiJack
:lol: :lol: :lol: :lol:

จริง ครับพี่ ผมได้ มากสุด 2 อัน ยังจำได้

แล้วที่บ้านยังมี ไอติมที่ปลายได้เป็นสีแดง ถ้าใครกินเจอก็เอาไปแลกได้อีกแทงครับ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 6:42 pm
โดย ("\(*-*)/")
พอเห็นตังเมหลอด ทำให้ผมนึกถึงไอ้เจ้าไหมฟ้า....ข้างในเป็นถั่วงาน่ะ สงสัยจะเป็นขนมตระกูลเดียวกัน ทำยากส์แต่กินอร่อย :lol:

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 9:34 pm
โดย o_น้ำมะเน็ด
เคี้ยวเหนียวหนึบติดฟันอย่างน้องต้นว่า..ของเจ้านี้สีขาวจัง

ที่เคยกินสีจะขุ่นๆมึถั่วผสมเคี้ยวแล้วเหนียวๆมันๆหอมๆ.. :D

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 9:49 pm
โดย o_Livercoke
น้ำมะเน็ด เขียน:เคี้ยวเหนียวหนึบติดฟันอย่างน้องต้นว่า..ของเจ้านี้สีขาวจัง

ที่เคยกินสีจะขุ่นๆมึถั่วผสมเคี้ยวแล้วเหนียวๆมันๆหอมๆ.. :D


สงสัยเจ้านี้ลุงแก ผสมโอโม่ ที่คุณวิลลี่โฆษณาอยู่มั้งพี่.......... :lol: :lol: :lol: ย้อเย่น

นึกถึงแบบหยอดเหรียญ ครับ ต้องถอยกลับไปประมาณ 20 กว่าปีแล้วครับ..... :)

ส่วนแบบที่เค้าทำมาใส่ในห่อพลาสติค แถวๆ บางลำภูพระนคร ยังมีให้เห็นอยู่..... :D
แต่แบบตัดสดอย่างของป๋ายุทธ ยังไม่เห็นครับ..... :?

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 10:44 pm
โดย o_PAO
ตังเมนี่มันอยู่ได้หลายวันไม่ใช่เหรอครับ
ผมสงสัยว่าพี่ไม่คิดจะซื้อมาให้พวกผมชิมมั่งเหรอ :oops:

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 27, 2007 9:02 am
โดย o_cokeyuth
PAO เขียน:ตังเมนี่มันอยู่ได้หลายวันไม่ใช่เหรอครับ
ผมสงสัยว่าพี่ไม่คิดจะซื้อมาให้พวกผมชิมมั่งเหรอ :oops:


ผมซื้อมา ยี่สิบบาท แต่กินไปได้แค่ ห้าบาท
เข้าข่ายกินทิ้งกินขว้างนะครับ เด็กๆอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
เนื่องจาก "น้องมด" กวนผมทั้งคืน จำใจต้องยกที่เหลือให้น้องมดไปหมด

แหม....ไปเที่ยวแบบคนแบกเป้ มันจะขนของติดตัวไปมากก็ไม่ได้เสียด้วย

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 27, 2007 9:12 am
โดย o_cokeyuth
ไม่งั้นกระผมจะซื้อ กระแป๋งนี้
มาฝากคุณเปาเลยครับ


รูปภาพ
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 27, 2007 10:02 am
โดย sermsoon
cokeyuth เขียน:ไม่งั้นกระผมจะซื้อ กระแป๋งนี้
มาฝากคุณเปาเลยครับ


ไชโย้... อยู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่ปี 2506 เพิ่งได้ยินคนเรียก กระแป๋ง ว่า กระแป๋ง วันนี้เอง
ตอนเข้ามาใหม่ๆ เถียงกับเพื่อนคนกรุงหน้าดำหน้าแดง มันบอกว่าต้องเรียก กระป๋อง ตะหาก
สมัยก่อนโน้นนนนน น่ะนะ มีคนแก่ที่นครสวรรค์หลายคนเรียก "กระแต๋ง" รูปภาพ
8)