หนังสือแบบเรียนเก่า

กระทู้ข้อมูลต่างๆจากเวบบอร์ดเก่า สามารถตอบกระทู้ได้นะครับ

โพสต์โดย o_farang » พฤหัสฯ. พ.ย. 15, 2007 8:00 pm

:smile: เยี่ยมครับคุณ K_chang ขออีกบทได้ไหมครับ

จะกล่าวถึงพลายแก้วแววไว
เมื่อบิดาบรรลัยแม่พาหนี
ไปอาศัยอยู่ในกาญบุรี
กับนางทองประศรีผู้มารดา
.......................
..................
ช่วยฟื้นความทรงจำทีนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_farang
 
โพสต์: 679
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 06, 2006 2:25 pm
ที่อยู่: บางบัวทอง นนทบุรี

มาแล้วค้าบ

โพสต์โดย o_K_chang » ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 11:47 am

จัดให้เลยนะค้าบ :-)


จะกล่าวถึงพลายแก้วแววไว
เมื่อบิดาบรรลัยแม่พาหนี
ไปอาศัยอยู่ในกาญจนบุรี
กับนางทองประศรีผู้มารดา
อยู่มาจนเจ้าเจริญวัย
อายุนั้นได้ถึงสิบห้า
ไม่วายคิดถึงพ่อที่มรณา
แต่นึกตรึกตรามากว่าปี
อยากจะเป็นทหารชาญชัย
ให้เหมือนพ่อขุนไกรที่เป็นผี
จึงอ้อนวอนมารดาให้ปราณี
ลูกนี้จะใคร่รู้วิชาการ


รูปภาพ


;-) ;-) ;-) ;-) ;-) ;-) ;-) ;-) ;-) ;-)
รูปภาพ


:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_K_chang
 
โพสต์: 105
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ย. 09, 2007 3:04 pm
ที่อยู่: ซอยพ่วงทรัพย์ ถนนประชาชื่น บางซื่อ

โพสต์โดย o_farang » จันทร์ พ.ย. 19, 2007 6:54 pm

นึกถึงสมัยเรียนโรงเรียนวัดขึ้นมาทันทีเลย เยี่ยมจริงๆคุณ K_chang
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_farang
 
โพสต์: 679
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 06, 2006 2:25 pm
ที่อยู่: บางบัวทอง นนทบุรี

โพสต์โดย o_cokeyuth » จันทร์ พ.ย. 19, 2007 8:44 pm

K_chang เขียน:สักวาหวานอื่นมีหมื่นแสน
ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอม
กลิ่นประเทียบเปรียบดวงพวงพะยอม
อาจจะน้อมจิตโน้มด้วยโลมลม
แม้ล้อลามหยามหยาบไม่ปลาบปลื้ม
ดั่งดูดดื่มบอระเพ็ดต้องเข็ดขม
ผู้ดีไพร่ไม่ประกอบชอบอารมณ์
ใครฟังลมเมินหน้าระอาเอย



ชอบสักวาบทนี้ครับ....จำได้ไงเนี่ย
:smile: :smile: :smile:
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_cokeyuth
 
โพสต์: 7846
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 10:02 am
ที่อยู่: สระบุรี

หนังสือแบบเรียนและนิทานค่ะ พอมีเหลืออยู่บ้าง สนใจติดต่อได้ค่

โพสต์โดย sugarplam » จันทร์ พ.ค. 26, 2008 3:18 pm

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
sugarplam
 
โพสต์: 37
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 10, 2008 1:39 pm
ที่อยู่: Chiangmai

โพสต์โดย sugarplam » จันทร์ พ.ค. 26, 2008 3:22 pm

รูปภาพ

รูปภาพ
sugarplam
 
โพสต์: 37
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 10, 2008 1:39 pm
ที่อยู่: Chiangmai

โพสต์โดย o_lekpn » จันทร์ พ.ค. 26, 2008 4:31 pm

มาจะกล่าวบทไป ถึงระเด่นลันไดอนาถา :grin: :grin:
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_lekpn
 
โพสต์: 12266
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 08, 2005 8:39 pm
ที่อยู่: 98 ถ.นนทรี ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ

โพสต์โดย o__Santana » จันทร์ พ.ค. 26, 2008 4:58 pm

lekpn เขียน:มาจะกล่าวบทไป ถึงระเด่นลันไดอนาถา :grin: :grin:

จำไม่ได้ว่าต่อไปอย่าชักช้า เดี๋ยวเสียชื่อเด็กยานนาวานะเอย :sad:
หนทางไปสู่ความลำบากแสนสบาย
หนทางไปสู่ความสบายแสนลำบาก(นิรนาม)
ภาพประจำตัวสมาชิก
o__Santana
 
โพสต์: 2758
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 10, 2005 12:43 pm
ที่อยู่: บางใหญ่ นนทบุรี

โพสต์โดย o_lekpn » อังคาร พ.ค. 27, 2008 11:14 am

จำได้แค่นี้ล่ะครับพี่ :sad: :sad:
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_lekpn
 
โพสต์: 12266
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 08, 2005 8:39 pm
ที่อยู่: 98 ถ.นนทรี ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ

โพสต์โดย o_น้ำมะเน็ด » อังคาร พ.ค. 27, 2008 10:33 pm

มาฟื้นความหลังบ่อยๆ แก้อัลไซเมอร์แบบนี้ดีนัก :)
คนที่ปราศจากความรักในการสะสมย่อมมีเพียงชีวิตเดียว
ต่างจากคนที่รักการสะสมซึ่งมีสองชีวิต เพราะเขาใช้ชีวิตพร้อมกันไปใน"โลกสองโลก"

ที่มา:หนังสือเครื่องเสียงโบราณตำนานแห่งศาสตร์และศิลป์
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_น้ำมะเน็ด
 
โพสต์: 6076
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 09, 2005 6:06 pm
ที่อยู่: CokeThai.com

โพสต์โดย o_โค้ก โคราช » อังคาร พ.ค. 27, 2008 10:37 pm

:smile: อันนี้คุ้นครับ :smile:
รูปภาพ
cokekorat@hotmail.com เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน cokekorat@yahoo.co.th
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_โค้ก โคราช
 
โพสต์: 8995
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 06, 2007 3:06 pm
ที่อยู่: โคคา โคล่า โคราชา

โพสต์โดย o_K_chang » พฤหัสฯ. พ.ค. 29, 2008 5:41 pm

เอามาลงให้ :grin: :grin: :grin:


มาจะกล่าวบทไป
ถึงระเด่นลันไดอนาถา
เสวยราชย์องค์เดียวเที่ยวรำภา
ตามตลาดเสาชิงช้าหน้าโบสถ์พราหมณ์
อยู่ปราสาทเสาคอยอดด้วน
กำแพงแก้วแล้วล้วนด้วยเรียวหนาม
มีทหารหอนเห่าเฝ้าโมงยาม
คอยปราบปรามประจามิตรที่คิดร้าย

เที่ยวสีซอขอข้าวสารทุกบ้านช่อง
เป็นเสบียงเลี้ยงท้องของถวาย
ไม่มีใครชังชิงทั้งหญิงชาย
ต่างฝากกายฝากตัวกลัวบารมี
พอโพล้เพล้เวลาจะสายัณห์
ยุงชุมสุมควันแล้วเข้าที่
บรรทมเหนือเสื่อลำแพนแท่นมณี
ภูมีซบเซาเมากัญชา

ครั้นรุ่งแสงสุริยันตะวันโด่ง
โก้งโค้งลงในอ่างแล้วล้างหน้า
เสร็จเสวยข้าวตังกับหนังปลา
ลงสระสรงคงคาในท้องคลอง

กระโดดดำสามทีสีเหื่อไคล
แล้วย่างขึ้นบันไดเข้าในห้อง
ทรงสุคนธ์ปนละลายดินสอพอง
ชโลมสองแก้มคางอย่างแมวคราว
นุ่งกางเกงเข็มหลงอลงกรณ์
ผ้าทิพย์อาภรณ์พื้นขาว
เจียระบาดเสมียนละว้ามาแต่ลาว
ดูราวกับหนังแขกเมื่อแรกมี
สวมประคำดีควายตะพายย่าม
หมดจดงดงามกว่าปันหยี
กุมตระบองกันหมาจะราวี
ถือซอจรลีมาตามทาง

มาเอยมาถึง
เมืองหนึ่งสร้างใหม่ดูใหญ่กว้าง
ปราสาทเสาเล้าหมูอยู่กลาง
มีคอกโคอยู่ข้างกำแพงวัง
พระเยื้องย่างเข้าทางทวารา
หมู่หมาแห่ห้อมล้อมหน้าหลัง
แกว่งตระบองป้องปัดอยู่เก้กัง
พระทรงศักด์หยักรั้งคอยราญรอน

เมื่อนั้น
นางประแดะหูกลวงดวงสมร
ครั้นรุ่งเช้าท้าวประดู่ภูธร
เสด็จจรจากเวียงไปเลี้ยงวัว
โฉมเฉลาเนาในที่ไสยา
บรรจงหั่นกัญชาไว้ท่าผัว
แล้วอาบน้ำทาแป้งแต่งตัว
หวีหัวหาเหาเกล้าผมมวย
ได้ยินแว่วสำเนียงเสียงหมาเห่า
คิดว่าวัวเข้าในสวนกล้วย
จึงออกมาเผยแกลอยู่แร่รวย
ตวาดด้วยสุรเสียงสำเนียงนาง
พอเหลือบเห็นระเด่นลันได
อรไทผินผันหันข้าง
ชม้อยชม้ายชายเนตรดูพลาง
ชะน้อยฤๅรูปร่างราวกับกลึง
งามกว่าภัสดาสามี
ทั้งเมืองตานีไม่มีถึง
เกิดกำหนัดกลัดกลุ้มรุมรึง
นางตะลึงแลดูพระภูมี
รูปภาพ


:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_K_chang
 
โพสต์: 105
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ย. 09, 2007 3:04 pm
ที่อยู่: ซอยพ่วงทรัพย์ ถนนประชาชื่น บางซื่อ

โพสต์โดย o_K_chang » พฤหัสฯ. พ.ค. 29, 2008 5:43 pm

มาต่อ :grin: :grin: :grin:




เมื่อนั้น
พระสุวรรณลันไดเรืองศรี
เหลียวพบสบเนตรนางตานี
ภูมีพิศพักตร์ลักขณา ฯ 2 คำ ฯ
๏ชมโฉม สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด
งามละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋า
พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา
ทั้งสองแก้มกัลยาดังลูกยอ
คิ้วก่งเหมือนกงเขาดีดฝ้าย
จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ
หูกลวงดวงพักตร์หักงอ
ลำคอโตตันสั้นกลม
สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว
โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม
เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม
มันน่าเชยน่าชมนางเทวี

นี่จะเป็นลูกสาวท้าวพระยา
ฤๅว่าเป็นพระมเหสี
อกใจทึกทักรักเต็มที
ก็ทรงสีซอสุวรรณขึ้นทันใด

ยักย้ายร่ายร้องเป็นลำนำ
มีอยู่สองสามคำจำไว้ได้
สุวรรณหงษ์ถูกหอกอย่าบอกใคร
ถูกแล้วกลับไปได้เท่านั้น

แล้วซ้ำสีอิกกระดิกนิ้ว
ทำยักคิ้วแลบลิ้นเล่นขบขัน
เห็นโฉมยงหัวร่ออยู่งองัน
พระทรงธรรม์ทำหนักชักเฉื่อยไป

เมื่อนั้น
นางประแดะตานีศรีใส
สดับเสียงสีซอพอฤทัย
ให้วาบวับจับใจผูกพัน
ยิ่งคิดพิศวงพระทรงศักดิ์
ลืมรักท้าวประดู่ผู้ผัวขวัญ
ทำไฉนจะได้พระทรงธรรม์
มาเคียงพักตร์สักวันด้วยรักแรง
คิดพลางทางเข้าไปในห้อง
แล้วตักเอาข้าวกล้องมาสองแล่ง
ค่อยประจงลงใส่กระบะแดง
กับปลาสลิดแห้งห้าหกตัว
แล้วลงจากบันไดมิได้ช้า
เข้ามานอบนบจบเหนือหัว
เอาปลาใส่ย่ามด้วยความกลัว
แล้วยอบตัวลงบังคมก้มพักตรา

เมื่อนั้น
ลันไดให้แสนเสนหา
อะรามรักยักคิ้วหลิ่วตา
พูดจาลดเลี้ยวเกี้ยวพาน

โอ้โลม งามเอยงามปลอด
ชีวติพี่นี้รอดด้วยข้าวสาร
เป็นกุศลดลใจเจ้าให้ทาน
เยาวมาลย์แม่มีพระคุณนัก
พี่ขอถามนามท้าวเจ้ากรุงไกร
ชื่อเรียงเสียงไรไม่รู้จัก
เจ้าเป็นพระมเหสีที่รัก
ฤๅนงลักษณ์เป็นราชธิดา
รูปร่างอย่างว่ากะลาสี
พี่ให้มีใจรักเจ้าหนักหนา
ว่าพลางเข้าใกล้กัลยา
พระราชาฉวยฉุดยุดมือไว้
รูปภาพ


:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_K_chang
 
โพสต์: 105
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ย. 09, 2007 3:04 pm
ที่อยู่: ซอยพ่วงทรัพย์ ถนนประชาชื่น บางซื่อ

โพสต์โดย o_น้ำมะเน็ด » เสาร์ พ.ค. 31, 2008 7:24 am

:smile: กลับมาเข้าห้องเรียน อีกครั้ง :smile:
คนที่ปราศจากความรักในการสะสมย่อมมีเพียงชีวิตเดียว
ต่างจากคนที่รักการสะสมซึ่งมีสองชีวิต เพราะเขาใช้ชีวิตพร้อมกันไปใน"โลกสองโลก"

ที่มา:หนังสือเครื่องเสียงโบราณตำนานแห่งศาสตร์และศิลป์
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_น้ำมะเน็ด
 
โพสต์: 6076
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 09, 2005 6:06 pm
ที่อยู่: CokeThai.com

โพสต์โดย o_ลูกอีช่างเก็บ_80 » เสาร์ ก.ค. 26, 2008 1:53 pm

รูปภาพ

หนังสือบทอาขยานภาษาไทย ชั้นป.1-2 พ.ศ.2518

มีบทคุ้นหูอยู่หลายบท เช่น

นกเอ๋ยนกเอี้ยง
คนเข้าใจว่าเจ้าเลี้ยงซึ่งควายเฒ่า
แต่นกเอี้ยงนั้นเลี่ยงทำงานเบา
แม้อาหารก็ไปเอาบนหลังควาย
เปรียบเหมือนคนทำตนเป็นกาฝาก
รู้มากเอาเปรียบคนทั้งหลาย
หนีงานหนักคอยสมัครงานสบาย
จึงน่าอายเพราะเอาเยี่ยงนกเอี้ยงเอย ฯ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
o_ลูกอีช่างเก็บ_80
 
โพสต์: 2635
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 20, 2006 4:12 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง Retro Society (บอร์ดเก่า)

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Majestic-12 [Bot] และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน