ฮือฮาวงการบันเทิง อดีตนางเอกฉายานัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง "เพชรา เชาวราษฎร์" ยอมเผยโฉมครั้งแรกรอบกว่า 30 ปี
รับเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอาง "มิสทิน" ช่วยการกุศลมูลนิธิคนตาบอด ด้านคู่ชีวิต"ชรินทร์ นันทนาคร" เผย ภรรยาออกกำลังกาย
ฟิตซ้อมร่างกายเต็มที่เพื่องานครั้งนี้
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับวงการบันเทิงไทยอีกครั้ง เมื่ออดีตนางเอกชื่อดังของเมืองไทยเจ้าของฉายานัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง
"เพชรา เชาวราษฎร์ " หรือ "อี๊ด" วัย 63 ปี ตัดสินใจหวนสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง หลังจากเงียบหายไปจากวงการบันเทิงยาวนาวกว่า 30 ปี
ด้วยการรับคำเชิญเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เครื่องสำอางชื่อดัง "มิสทิน" โดยเรื่องดังกล่าวได้รับการยืนยันจากนักร้องลูกกรุงชื่อดัง "ชรินทร์ นันทนาคร"
คู่ชีวิตของอดีตนางเอกชื่อดังว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายชรินทร์ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว คม ชัด ลึก ว่า "คืออี๊ดเขาเซ็นสัญญาถ่ายไปนานแล้ว 4-5 เดือนเห็นจะได้
เขาตัดสินใจเอง ถึงได้มาบอกผม ซึ่งผมก็แล้วแต่เขา ทางมิสทินก็กำชับทางเราว่า อย่าบอกใคร ห้ามบอกใคร ต้องปิดเป็นความลับ
กลายเป็นว่าสุดท้าย เขาก็เป็นคนบอก วันนี้ผมรับโทรศัพท์เป็น 100 สายแล้ว มีคนโทรมาถามตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้ว ข้าวปลาไม่ได้กิน
ตอนนี้อี๊ดก็ออกกำลังกาย ฟิตหุ่น ทำตามคอร์ส ตามที่หมอบอก หมอบอกว่าอย่าหักโหมมาก เดี๋ยวจะไม่ไหว ให้ค่อยๆ ทำ
แต่ปกติอี๊ดเป็นคนผอมอยู่แล้ว น้ำหนักแค่ 48 กิโลเอง คือพอออกสื่อ ก็อยากทำให้หุ่นดูดีขึ้น ให้เฟิร์ม ให้กระชับ"
เมื่อถามต่อว่า อดีตนางเอกชื่อดังฟิตร่างกาย ออกกำลังกาย เล่นกีฬาอะไรบ้าง นายชรินทรกล่าวว่า ที่ผ่านมาใช้วิธีว่ายน้ำ วันเว้นวัน
แต่เนื่องจากภรรยามีปัญหาทางสายตา จึงต้องขึงเชือกเอาไว้ หัวสระ ท้ายสระ และใช้วิธีว่ายตามเชือก ซึ่งค่อนข้างลำบากเหมือนกัน
แต่ช่วงหลังๆ ว่ายบ่อย ทำให้คลอรีนกัดผิวหนังคล้ำ หมอจึงสั่งหยุดไม่ให้ว่ายแล้ว
"ด้วยความที่อี๊ดว่ายบ่อย และคลอรีนเข้มข้น ก็เลยกัดผิว ก็เลยเกิดรอยคล้ำตามผิวหนัง แพทย์ผิวหนังสั่งให้หยุด เท่าที่ดูตอนนี้อี๊ดดูโอเค
ร่างกายพร้อม 80-90% แล้ว ส่วนจะถ่ายทำโฆษณาชิ้นนี้เมื่อไหร่นั้นไม่ทราบ ทางเราก็บอกไปว่าถ้าพร้อมก็บอกมา เราสามารถถ่ายได้เลย
ส่วนเรื่องเงินทองอะไรผมไม่รู้เรื่อง" นักร้องคนดังกล่าว
ส่วนเรื่องที่อดีตนางเอกขวัญใจชาวไทย ยอมตกลงถ่ายโฆษณาครั้งนี้นั้น นายชรินทร์กล่าวว่า คงเป็นเพราะทางมิสทินบอกว่า
จะนำรายได้ที่ได้ไปมอบให้แก่มูลนิธิคนตาบอด เรื่องนี้น่าจะเป็นแรงจูงใจสำคัญที่สุด อีกทั้งถ่ายเฉพาะภาพนิ่ง
และภาพเคลื่อนไหวสำหรับถ่ายเป็นโฆษณาทีวี โดยที่ไม่ต้องไปโปรโมทสื่อต่างๆ สำหรับเรื่องอาการกังวล
และความตื่นเต้นในการถ่ายครั้งนี้นั้น เชื่อว่า เรื่องตื่นเต้นคงไม่ค่อยเท่าไหร่ เนื่องจากภรรยาเคยผ่านหน้ากล้องแสดงภาพยนตร์
มาแล้วหลายเรื่อง อีกทั้งการถ่ายโฆษณาสามารถถ่ายซ้ำได้ แต่ภรรยาอาจจะมีอาการกังวลกับโลกที่เปลี่ยนไป
"คือถ้าถ่ายหนัง ถ่ายโฆษณาอี๊ดเขาโอเค เพราะว่าถ่ายซ่อมได้ อะไรได้ แต่ถ้าเป็นรายการสด อี๊ดจะกลัวมาก จะไม่มั่นใจ
อีกอย่างที่อี๊ดกังวล คือ เขากลัวว่าจะเชย เพราะมีบ่นๆ ว่า ออกไปแล้วคงจะเชยระเบิด พูดจาไม่ทันสมัย เพราะไม่ได้ไปไหนเลย
กลัวหน้าผมออกมาแล้วจะดูเชย ผมก็บอกไปว่า ไม่ต้องกลัว สมัยนี้มีช่างหน้า ช่างผมทำให้พร้อม ไม่เหมือนดาราสมัยก่อนที่ต้องทำกันเอง"
นายชรินทร์กล่าว
ด้านนายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือวู้ดดี้ ที่เคยไปสัมภาษณ์เพื่อนำมาออกรายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย" กล่าวถึงอดีตนางเอกคนดังว่า
เป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยอย่างไรก็ยังสวยเช่นนั้น
"อาอี๊ดสวยตลาดกาล กลายเป็ยตำนานไปแล้วสำหรับผม คือเขาก็จะห่วงหน้าตาว่าจะเป็นอย่างไร หลายคนที่ไม่ได้เห็นเขา
บอกได้ว่าเป็นคนที่สวยมาก เป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใส เขาไม่เปลี่นนเลย เหมือนถูกสต็อป แม้วันเวลาจะผ่านไปแค่ไหน
แต่ทำอะไรเขาไม่ได้ เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับวูดดี้" พิธีกรฝีปากกล้า กล่าว
http://news.mjob.in.th/entertain/cat1/news16114/
ขนาดตอนนั้นรายการวู๊ดดี้ยังไม่ได้เห็นหน้าเลย 
