"50 ปีไทยน้ำทิพย์"ทุ่มงบฯ500 ล้านยกระดับการ......
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 02, 2009 5:12 pm
" 50 ปีไทยน้ำทิพย์" สบช่องประกาศทุ่มงบฯลงทุน 500 ล้าน ยกระดับการผลิต-บรรจุภัณฑ์ใหม่
นายพรวุฒิ สารสิน รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มโค้ก แฟนต้า สไปรท์ มานานกว่า 50 ปี
" ไทยน้ำทิพย์" สบช่องประกาศทุ่มงบฯลงทุน 500 ล้าน ยกระดับการผลิต-บรรจุภัณฑ์ใหม่ เพิ่มขีดความสามารถการกระจายสินค้า
เผยคว้ามาตรฐานรง.ด้านซีเอสอาร์ ฉลอง 50 ปีผู้นำเครื่องดื่มไทย
นายพรวุฒิ สารสิน รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มโค้ก แฟนต้า สไปรท์ มานานกว่า 50 ปี
กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเดินหน้าขยายการลงทุน แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยได้เตรียมงบฯลงทุน 500 ล้านบาท
เพื่อยกระดับอุปกรณ์การผลิตและบรรจุภัณฑ์ใหม่ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการกระจายสินค้าด้วยรถขนส่งและยานพาหนะอื่นๆ
ซึ่งจากประสบการณ์ของโคคา-โคลาในประเทศไทยและทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้การเพิ่มการลงทุน
จะช่วยส่งผลให้การดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้น ทั้งกับผู้บริโภคและพันธมิตรทางการค้า
กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทย มีเป้าหมายที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น
พร้อมทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยแผนสนับสนุนทางการตลาดที่ต่อเนื่อง เพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน
เช่น กรณีการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในส่วนของเครื่องดื่มนอนสปาร์กิ้ง (non sparking ) และน้ำผลไม้ ด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่
"มินิทเมด พัลพิ" เครื่องดื่มน้ำส้มผสมเนื้อส้มจากธรรมชาติ
นายพรวุฒิ กล่าวอีกว่า ปีที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจ โคคา-โคลา ในประเทศไทยครองอันดับ 1 ในตลาดเครื่องดื่มสปาร์กิ้ง
ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ของไทย ซึ่งเป็นผลมาจาก ความสำเร็จของโค้ก ซีโร่ และเครื่องดื่มแบรนด์อื่นๆ
ปัจจุบันโคคา-โคลายังคงเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มปราศจากน้ำตาล ส่วนน้ำผลไม้และน้ำดื่มกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา
ยังคงครองความเป็นผู้นำในช่องทางจำหน่ายแบบดั้งเดิม (traditional trade)
ด้านนายองอาจ ตีรพงษ์สกุล ผู้จัดการฝ่ายผลิตโรงงานรังสิต ลำลูกกา คลอง 13 บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด
กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสครบรอบ 50 ปี นอกจากบริษัทจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่องแล้ว
บริษัทยังให้ความสำคัญในการเพิ่มเพิ่มศักยภาพด้านการผลิต พร้อมกันนั้นยังได้ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม
และสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำโรงงานเข้าสู่กระบวนการจัดการเพื่อให้เป็นโรงงานระดับเวิล์ดคลาส
ซึ่งหมายถึงการก้าวสู่การเป็นโรงงานผลิตเครื่องดื่มมาตรฐานโลกเช่นเดียวกับบริษัทแม่ฯ
ล่าสุด โรงงานผลิตเครื่องดื่มที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ได้ประกาศความก้าวหน้าไปอีกขั้น
ในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้รับการรับรองการปฏิบัติงาน จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม
ในฐานะที่เป็นโรงงานผู้ผลิตเครื่องดื่มแห่งแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความรับผิดชอบ
ของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่อสังคม ( CSR-DIW) หรือ ISO 26000 จากกรมโรงงาน เพื่อก้าวสู่มาตรฐานใหม่
ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญและเป็นข้อบังคับใหม่ให้กับโรงงานผู้ประกอบการ โดยการบังคับใช้มาตรฐาน ISO 26000
หรือมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่อสังคม (CSR) จะเริ่มมีผลตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป
.............................................. 
