เมื่อวันที่ 1- 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเยือนมหานครปักกิ่ง ก่อนเกิดแผ่นดินไหวไม่นาน จึงได้นำภาพมาฝากสมาชิกทุกท่านครับ

ผมไปทัวร์ถูกครับ จึงออกจากสุวรรณภูมิตอนตี1 เครื่องบินแคบมากๆของสายการบินแอร์ไชน่า



สนามบินบ้านเราตอนเที่ยงคืนครับ

นั่งอยู่บนเครื่องบิน 5 ชั่วโมง ในสภาพที่นอนไม่หลับ



ถึงสนามบินปักกิ่ง ซึ่งเป็นอาคารเปิดใหม่ได้ 2 เดือน ขนาดใหญ่กว่าสุวรรณภูมิของเรามากครับ



ดูหลังคาเค้าออกแบบซิครับ

ทัวร์กลุ่มนี้ใหญ่มากครับ ใช้รถบัส 2 คันแบ่งเป็นบัสเอ และบัสบี รวมแล้วประมาณ 85 คน

ภาระกิจแรกที่หัวหน้าทัวร์พาไปคือ รับประทานติ่มซ่ำร้านชื่อดังของปักกิ่ง ซึ่งผมยังอาการไม่ดีจากบนเครื่องบินอยู่ มือแรกนี้จึงไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่



ถ่ายหน้าร้านติ่มซ่ำ




สถานที่แรกที่ไปคือ อันเดอร์วอเตอร์เวิลด์ แต่ไม่น่าจะใช่เจ้าของเดียวกับที่เมืองไทยนะ เพราะใช้ชื่อไม่เหมือนกัน และสภาพเก่าๆ ผมเดินผ่านๆด้วยความรวดเร็ว



ดีกว่าบ้านเราอยู่อย่างนึงคือมีสายพานวิ่งไปเรื่อยๆ ไม่จราจรติดขัดเพราะมัวแต่ยืนดูปลา

อยากดูกระป๋องโค้กน่ะครับพี่เล็ก มีให้ดูไหมเอ่ย

สถานที่ต่อไปที่ไปเยี่ยมชมคือวัดลามะ อดีตเป็นวังขององค์ชาย 4 (ต่อมาขึ้นเป็นฮ่องเต้หย่งเจิ้น)



ป้ายชัดๆ




ตำหนักสวยมากๆ

ที่นี่มีพระพุทธรูปแกะด้วยไม้จันทน์หอมต้นเดียวสูงที่สุดในโลก ความสูงบนพื้นดิน 18 เมตร ฝังใต้ดินอีก 8 เมตรเพื่อกันล้ม แน่นอนครับเค้าไม่ให้ถ่ายรูปแต่ผมก็เห็นชาวจีนถ่ายรูปกันพรึบไปหมด ผมเลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายวีดีโอ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่จีนกันไม่ให้ถ่ายครับ

โค้ก โคราช เขียน::-o อยากดูกระป๋องโค้กน่ะครับพี่เล็ก มีให้ดูไหมเอ่ย

จะดูแต่กระป๋อง ไม่ดูสาวจีนหลอ

lekpn เขียน:

โค้ก โคราช เขียน::-o อยากดูกระป๋องโค้กน่ะครับพี่เล็ก มีให้ดูไหมเอ่ย

จะดูแต่กระป๋อง ไม่ดูสาวจีนหลอ

งั้นไม่ดูกระป๋องแล้ว สาวจีนมาเลยพี่เล็ก

ป้ายชื่อตำหนักต่างๆ ใช้ถึง 4 ภาษา จากขวามือคือภาษาแมนจู ภาษาฮั่นหรือจีนกลาง ภาษาธิเบตและภาษามองโกล





ความสำคัญของแต่ละตำหนักสังเกตได้จากสัตว์ในตำนานที่อยู่บนหลังคาครับ มีตั้งแต่ 3 ตัว 5 ตัว 7 ตัวและ 9 ตัว ทั้งหมดล้วนเป็นลูกของมังกรทั้งสิ้น นำหน้าด้วยเซียนขี่แม่ไก่

ลูกๆไม่สนใจเลยน้า จะดูแต่ป๋องเอ้ยสาวจีนอย่างเดียว
ระวังหูยานเด้อ

การเที่ยวในจีนมักจะใช้ไกด์ท้องถิ่น เค้าจะพาอธิบายไปจนสุดด้านในก่อนแล้วจึงเดินย้อนออกมาถ่ายรูปครับ ภาพจึงเป็นการถ่ายจากด้านในย้อนออกมาด้านนอก



ตำหนักนี้อยู่หน้า เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน 3 องค์ แทนอดีต ปัจจุบันและอนาคต รวมถึงแทนสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมักจะขอพรจากพระเจ้าด้วย



สิ่งนี้ตั้งอยู่หน้าตำหนักแรก เป็นสัญลักษณ์ของสวรรค์ แดนมนุษย์ และนรกภูมิ จะเรียกว่าไตรภูมิก็ได้



นี่คือประตูทางเข้า



ร้านขายของที่ระลึกปากทางเข้า



ร้านขายโค้ก แต่ไม่ได้เข้าไปดูเลย เดินตามไกด์ไม่ทันอยู่แล้ว



ต้นแปะก๊วยอยู่ 2 ข้างทางเดิน



ซุ้มประตูด้านหน้าแต่ถ่ายจากด้านใน

จากนั้นก็แวะทานอาหารกลางวัน เจอเบียร์จีนก็ยังมีโลโก้โอลิมปิค อาหารทุกมื้อจะมีเบียร์จีนและโค้กตั้งไว้คู่กันครับ





หน้าตาไกด์จีนเป็นงี้ครับ



ช่วงบ่ายไปเที่ยวหอฟ้าเทียนถาน



สาวจีนมาแล้วคุณโต้ง

ที่เมืองจีนอะไรอะไรก็มังกรนะ



ทัวร์ปักกิ่งนี่เดินอย่างเดียวนะครับ เดินไกลมากๆด้วย ที่เห็นด้านหลังคือหอเทพสถิต เป็นที่เก็บป้ายชื่อเทพต่างๆ



ที่เห็นแย่งกันยืนนี่คือ หินสักการะ ที่ซึ่งฮ่องเต้ใช้สักการะฟ้าดิน หินตรงกลางเค้าว่าให้ยืนแล้วอธิฐานขอพรจากฟ้า

จากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆครับ





เพิ่งจะถึงนะ หอเทพสถิต



อีกมุมหนึ่ง



จากนั้นก็เดินอ้อมออกไป เพื่อไปหอสักการะฟ้าดิน

ที่อยู่ไกลๆนั่นแหล่ะหอสักการะฟ้าดิน เดินกันต่อไป



ถึงซักที



ถ่ายรูปหมู่ซักหน่อย



มุมนี้ดูแปลกตาดี



ซักพักมีสาวญี่ปุ่นมาขอให้ถ่ายรูปให้หน่อย



ดูท่าเธอซิ

ถ่ายหน้าหอพิพิธภัณท์



ด้านในมีประวัติการสร้างและหอฟ้าเทียนถานจำลอง







จำลองได้เหมือนทุกส่วนจริงๆ



ถ่ายจากภาพถ่ายอีกที แสดงภาพด้านในของหอฟ้า



ฮ่องเต้ผู้สร้างหอฟ้า

ออกจากหอฟ้าเทียนถานก็แวะรับประทานอาหาร จากนั้นก็ไปดูปักกิ่งไนท์โชว์

คุณโต้งมาดูเร็ว คราวนี้สาวจีนเพียบ