แน่นอน ตามนิสัยของผม ก็เข้าไปทักทายเผื่อว่าจะได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้าน
ประโยคแรกที่ผมพูดกับหัวหน้าที่มาด้วย "สวัสดีครับ" พร้อมยกมือไหว้ผู้ที่อาวุโสกว่า แล้วก็พูดต่อไปเป็นประโยคสนทนาดังนี้
ผม: พี่ครับ ผมสะสมโค้กครับ พี่พอจะมีอะไรให้ผมได้บ้างครับ
หัวหน้า: โอ๊ยไม่มีหรอก ของพวกเนี่ยมาแต่งร้านเฉพาะร้านที่มีรายชื่อ ให้ไม่ได้
ผม: พี่พอจะมีป้ายอันนี้เหลือๆบ้างไหมครับ (แผ่นฟิวเจอร์บอร์ด โค้กใส่ใจทุกจาน)
หัวหน้า: ไม่มี ติดเฉพาะร้านที่มีรายชื่อ
(ผมเห็นอารมณ์แกไม่อยากจะสนทนาด้วย ก็เลยเดินจ๋อยๆ มาที่รถกระบะโค้ก และก็เห็นโปสเตอร์มากมาย ที่พอจะแบ่งกันได้)
ผม: พี่ครับ โปสเตอร์นี่ผมขอเอาไปให้นักสะสมสัก 4-5 ใบได้ไหมครับ
หัวหน้า: เอาไปอันเดียวพอ (พร้อมกับเดินมา ประดุจว่ากลัวผมจะเอาไปมากกว่านั้น)
(หลังจากที่ผมหยิบมา 1 แผ่น ผมก็เปรือยไปด้วยความไม่พอใจเหมือนกันว่า เสียแรงที่รักโค้กมาสิบกว่าปี)
หัวหน้า: (กำลังจะพูดโต้ตอบ)
ผม: ผมเข้าใจพี่ (แล้วก็ปั่นจักรยาน ด้วยความตั้งใจว่าจะต้องมาเขียนที่กระทู้นี้)
ผมอยากให้ผู้บริหารท่านใดก็ได้ เข้ามาอ่านกระทู้นี้ทีเถอะ พวกคุณรู้ไหมว่า พวกเราเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ตอบให้ก็ได้ พวกเราเกิดจากการทำการตลาดของพวกคุณนั่นแหละ พวกเราคือผู้บริโภคในระดับสูงสุดของคุณ พวกเราไม่ใช่เปรตขอส่วนบุญของพวกคุณนะครับ หากพวกเราประสงค์ที่จะได้ของพวกคุณหรือ สมบัติเล็กๆน้อยๆ ของพวกคุณมาไว้ในบ้าน นั่นคือการตอกย้ำในความรัก ที่พวกผมมีให้กับคุณไม่ใช่เหรอ
กรุณามองพวกเราเสียใหม่ด้วยครับ ฝากไปถึงผู้จัดการไทยน้ำทิพย์สาขากาญจนบุรีด้วย ว่าอบรมและทำความเข้าใจลูกน้องของคุณเสียใหม่ ผมขอยกตัวอย่างสาขานครปฐม ผู้จัดการยันพนักงานส่งโค้ก พวกเขาทุกคนมีความเป็นมิตรให้ผมมาก ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้คุยกับพวกเค้า ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ของติดไม้ติดมือก็ตาม
จงจำไว้ว่า หากสักวันนึงพวกเราไม่มี ก็เท่ากับกว่าการตลาดของพวกคุณตลอดระยะเวลา 48 ปีมันไร้ประโยชน์ เข้าใจพวกเราเสียใหม่นะครับ
เอ๊าะ
โปสเตอร์ที่ได้มาวันนี้ แผ่นเดียว
