น้ำท่วม ไม่โดนกับตัว ไม่รู้...ตอนนี้"รู้แล้ว"

น้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศไทยในครั้งนี้ ใหญ่หลวงจริงๆครับ ขณะที่พิมพ์อยู่นี้ น้ำที่บ้านผมเพิ่งจะลด
แต่บางอำเภอในจังหวัดสระบุรี เช่น อ.บ้านหมอ น้ำยังทรงไม่ลดลงสักเท่าไหร่ จังหวัดในภาคกลาง
อีก 8 จังหวัด ที่เจออุทกภัย น้ำก็ยังไม่ลด ต้องอยู่กับสภาวะน้ำขังอยู่เกือบเดือนแล้ว....

แค่ดูข่าวในโทรทัศน์ก็เศร้าอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณได้ประสบเหตุการณ์นี้กับตัวเอง มันยิ่งเศร้าอีกเป็นสิบเท่า
ผมเข้าใจสภาวะซึมเศร้าของเหยื่ออุทกภัยในวันที่ต้องกลับไปเปิดบ้านดูความเสียหาย
การที่ต้องเก็บกวาดบ้าน สูดกลิ่นขี้เลน และอยู่บนซากปรักหักพัง และความเสียหายของทรัพย์สิน
มันหดหู่ครับ....นี่ผมแค่เสียหายเล็กๆน้อยๆนะ ยังซึมไปเป็นวัน

ลองคิดดูว่า หากบ้านไหนสิ้นเนื้อประดาตัว หมดเนื้อหมดตัวจากน้ำท่วม แล้วต้องกลับไปเก็บกวาดซาก
จะรู้สึกหดหู่กว่าผมกี่เท่า?

แล้วลองคิดดูนะครับว่า ถ้าหากบ้านนั้น อยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด
คนในครอบครัวต้องเสียชีวิตไปเนื่องจากอุทกภัย จะหดหู่กว่าผมอีกกี่สิบเท่า?

ร้านผมที่ตลาดโบราณเสาไห้ จมน้ำประมาณ 1 เมตร
ความแรงของน้ำ...ฉีกประตูบานเฟี้ยมจนหลุด แต่โชคดีที่ของในร้านไม่หายสักชิ้น
น้ำแรงพัดของมาชนจนตู้แตก........









เทียบกับร้านของผมในวันเปิดปกติ.....

แม่น้ำที่บ้านผม คือ แม่น้ำป่าสัก
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เจอฝนตกสามวันไม่หยุด ทำให้ปริมาณน้ำเกินกำลังกักเก็บ
ต้องปล่อยออกมาอย่างเร่งด่วน ผลก็คือ ระดับน้ำสูงขึ้นกว่าระดับเดิมประมาณ
20-30 เมตรจากท่าน้ำหน้าอำเภอเสาไห้ ซึ่งเกิดมาก็ไม่เคยพบ เคยเห็น

เวลาน้ำมาแรงๆอะไรก็เอาไม่อยู่.....พอน้ำลด ก็จะพบซากความเสียหายตลอดลำน้ำ







วัดสมุหประดิษฐาราม คราวนี้ก็โดนน้ำท่วม

น้ำมารวดเร็ว และกระแสน้ำแรง...
เรือนที่อยู่ใกล้น้ำก็จมน้ำถึงหลังคา
เรือนใหญ่จมน้ำถึงระดับหน้าอก
ส่วนเรือที่ผูกไว้ก็ทานกระแสน้ำไม่ไหวไหลมาชนเรือนบ้าง
ไหลหายไปกับกระแสน้ำบ้าง
(รูปนี้ถ่ายตอนน้ำลดแล้ว...)

เห็น รอย น้ำลด ที่ บานเฟี้ยม แล้ว ได้แต่ เป็นกำลังใจ ให้ ครับ พี่ยุทธ

สาเหตุของน้ำท่วมใหญ่ในภาคกลาง และ ภาคอีสานครั้งนี้ คือ ปรากฎการณ์ลานินญ่า ซึ่งเกิดต่อเนื่องจาก
เอลนินโญ่ เมื่อหน้าแล้งที่ผ่านมา

เอลนินโญ่ เป็นสาเหตุให้เกิดความแห้งแล้ง จนแม่น้ำโขง แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำหลายสายในประเทศแห้งเหือด
ทำให้เมื่อเข้าหน้าฝน เขื่อนทุกเขื่อนจึงกักเก็บน้ำไว้เต็มที่ แต่เมื่อเจอฝนตกที่ผิดปกติเนื่องมาจากร่องความกดอากาศ
(ผลจากปรากฎการณ์ลานินญ่า)ทำให้ฝนตกติดกันสามวันสามคืนไม่หยุด ในบริเวณจังหวัด สระบุรี ลพบุรี ชัยภูมิ โคราช
ซึ่งเป็นต้นแม่น้ำทั้งในภาคกลางและภาคอีสาน ทำให้น้ำก้อนใหญ่ไหลบ่าลงแม่น้ำป่าสัก แม่น้ำมูล แม่น้ำชี
จนไม่มีอะไรหยุดกระแสน้ำได้ น้ำจึงท่วมใหญ่ในเส้นทางที่น้ำไหลผ่าน

ผมเจอมาละ บอกคำเดียวเหนื่อย เวลาทำความสะอาด เสียดาย เวลาต้องเอาของที่เสียทิ้ง

สู้ๆๆๆ ครับพี่

น้ำท่วมในภาคกลาง และ ภาคอีสาน ในรอบนี้ หากน้ำลดก็คงจะจบแล้ว
แต่สำหรับภาคใต้ เหตุการณ์มันเพิ่งจะเริ่มต้นครับ....เนื่องมาจาก ลมหนาวที่พัดมาจากประเทศจีน
เมื่อมันลงมายังอ่าวไทย เจอความชื้นในทะเล พัดขึ้นฝั่งจะกลายเป็นฝนในภาคใต้
เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้ครับ...เพราะมันยังมี พายุหมุนในทะเลจีนใต้ ที่มาตามฤดูกาล และมาตามอิทธิพลของลมหนาว

ถ้าพายุพัดเฉียงขึ้นเหนือ ก็จะเจอแหลมญวน แต่ถ้าพายุมันพัดเฉียงลงใต้ มันก็จะวิ่งตรงๆมาที่ภาคใต้
ไม่จังหวัดใด ก็จังหวัดหนึ่ง เช่น พายุใต้ฝุ่นเกย์ ในอดีต โจมตีประจวบและชุมพร หรือ พายุใต้ฝุ่นแฮเรียต โจมตีแหลมตะลุมพุก
ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ในปี 2505

ในทั่วทุกภาคของไทย อาจจะเย็นสบายจากสายลมหนาว
แต่ภาคใต้ เริ่มฤดูฝนและคลื่นลมแรง ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์

น้ำท่วมภาคใต้ ที่เราเห็นในข่าวเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา เป็น้ำท่วมคนละแบบกับภาคกลางนะครับ
ภาคกลาง ภาคอีสาน เป็นน้ำบ่าจากเขื่อน ที่ปล่อยออกมาบ่าท่วมเป็นน้ำท่วมทุ่ง
และมันจะทรงๆอยู่อย่างนี้อีกหลายอาทิตย์ หรือ อาจจะเป็นเดือน เนื่องมาจากภูมิประเทศของภาคกลางเป็นที่ราบ
เป็นทุ่งนา เมื่อน้ำมา แล้วมันก็จะขังอยู่ตามภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นท้องกะทะ

แต่น้ำท่วมภาคใต้ เป็นการโจมตีจากพายุดีเปรสชั่น ที่เกิดฝนตกหนักแบบข้ามวันข้ามคืน
ไม่ว่าน้ำ หรือ ลม หรือ ฝน จะโจมตีอย่างรวดเร็ว และรุนแรงกว่าน้ำท่วมในภาคกลางและภาคอีสาน
แต่เกิดขึ้นเร็ว และ น้ำจะลดลงเร็ว เนื่องจากภูมิประเทศลาดชัน ไม่ใช่ที่ราบกว้างๆเหมือนอย่างภาคกลาง
ดังนั้น เวลาเกิดอุทกภัยจึงโดนตัดขาดจากการช่วยเหลือใดๆ เพราะน้ำจะเชื่ยวจนการช่วยเหลือทำไม่ได้

เรื่องยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้....
ความรุนแรงมันเพิ่มดีกรีลงไปอีก เนื่องจากปรากฎการณ์ลานินญ่า
ที่นักวิชาการทุกสำนักออกมาฟันธงว่า ในครั้งนี้จะเป็นการแปรปรวนอย่างสุดขั้ว
ในปีนี้ เจอภัยแล้งสุดๆ น้ำท่วมแบบสุดๆ และ อากาศหนาวแบบสุดๆ จนทุบสถิติทุกสถิติที่ประเทศไทยเคยเจอมา

ด้วยเหตุนี้ น้ำท่วมหาดใหญ่ และจังหวัดต่างๆทั่วภาคใต้ ที่ปรากฎแก่สายตาคนไทยทางภาพข่าวโทรทัศน์
จึงรุนแรงจนน่ากลัว น้ำท่วมระดับสามเมตร จมตึกหายไป 1 ชั้นในพริบตา
แถมน้ำแรงขนาดที่คนแข็งแรงตกน้ำแล้วจมหายไปกับสายน้ำได้ในทันที

แม้น้ำจะลดลงไปแล้วภายในสามวัน....แต่ไฟฟ้า กับ น้ำประปา ก็ยังไม่มีใช้
และฤดูแห่งอุทกภัย สำหรับภาคใต้ เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น มันจะยังต้องเผชิญเหตุการณ์แบบนี้ไปอีก 3-4 เดือน

"ตลาดกิมหยง" ใครไปหาดใหญ่ ก็ ต้อง ไปแวะ...เห็น ภาพนี้ แล้ว น่ากลัว แบบ พี่ยุทธ บอก จริงๆ ครับ

น่ากลัวจริงๆครับ