ThaiJack เขียน:maxxi เขียน:googleลองสิ

แล้วผัก 5 อย่างที่ยังตอบไม่ได้ลองใช้ หรือยัง

http://www.pantown.com/board.php?id=49& ... ction=view
ตอนนี้ก็มาถึงช่วงสุดท้ายของการกินเจเเล้ว
เลยนำความเป็นมาของการกินเจมาฝากเพื่อนๆ
เราจะได้รู้จักเทศกาลนี้กันมากขึ้น = )
...... * ......... * .............. * ......... * . * ... * ............ * .... * .....
+ การกินเจเป็นประเพณีปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานนับเป็นร้อยปี
จนเป็นที่สับสนกันว่าจุดกำเนิดที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไรกันแน่
แม้จะมีคนอ้างอิงถึงที่มาที่ไปอยู่หลายตำนาน
หากโดยสรุปแล้วมีอยู่ 2 เรื่องหลักคือป็นการประกอบพิธีกรรม
เพื่อสักการะบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์
และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์
คือ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู และพระเกตุ
ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง ยึดถือว่าการกินเจเป็นการบำเพ็ญบุญ
เพื่อรำลึกถึงวีรชนของชาวจีนในช่วงยุคสมัยหนึ่ง
ซึ่งได้ต่อสู้กับชาวแมนจูอย่างกล้าหาญ โดยชาวบ้านได้พากันถือศีลกินเจนุ่งขาวห่มขาว
เพราะเชื่อว่าการประพฤติปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยชำระจิตวิญญาณ
เกิดความเข้มแข็งทั้งทางร่างกายและจิตใจ
อย่างไรก็ดี ประเพณีการกินเจ ได้กำหนดนับเอาวันตามจันทรคติ
คือเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ ของเดือน 9 ตามปฏิทินจีน
รวม 9 วัน 9 คืน เป็นช่วงระยะเวลาสำหรับการกินเจ
โดยยึดถือการปฏิบัติเป็นประจำทุกปี
และมีกิจกรรมหลัก 2 อย่างคือ การรักษาอุโบสถศีล
และกินของที่ถือว่าเป็นเจ
คือไม่มีเนื้อสัตว์และผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด อันได้แก่
1 .กระเทียม รวมถึงกระเทียม และต้นกระเทียม
2. หัวหอม รวมถึงต้นหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่
3. หลักเกียว คือกระเทียมโทนจีน ลักษณะคล้ายหัวกระเทียม แต่มีขนาดเล็ก และยาวกว่า
4. กุยช่าย ใบคล้ายใบหอม แต่แบน และเล็กกว่า อย่างที่รู้จักกันโดยทั่วไป
ก็คือนำมาทำเป็นอาหารที่เรียกว่า ขนมกุยช่าย
5. ใบยาสูบ รวมถึงบุหรี่ ยาเส้น และของเสพติดมึนเมาต่าง ๆ
การงดกินผักกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิด เพราะเชื่อว่าพืชผักเหล่านี้
จะเข้าไปเพิ่มความกำหนัด อันเป็นการทำลายสมาธิ และพลังธาตุในร่างกาย
อันเป็นสาเหตุให้อวัยวะสำคัญภายใน 5 ชนิด ทำงานไม่ปกติ
คือ หัวใจ ไต ตับ ม้าม และปอด
ซึ่งจะทำให้เกิดความเจ็บป่วยทางร่างกาย