ขอเชิญเพื่อนๆ ทุกคน

มาร่วมเฉลิมฉลองให้ในหลวงของเรา

เนื่องในวันมหามงคลพระชนมายุครบ 83 พรรษา

วันที่ 5 ธันวาคม 2553 ที่จะถึงนี้

สำหรับพิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย

จะร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

จัดนิทรรศการเพลงพระราชนิพนธ์แรกบนจานเสียง

และวัตถุชิ้นเอกที่จะนำไปจัดแสดงได้แก่....

ประวัติแผ่นเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ชุดแรกของประเทศไทย









เป็นที่ทราบกันดีว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของพวกเราชาวไทยนั้น ทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านดนตรีสากลอย่างมาก โดยเฉพาะดนตรีแนวแจ๊ส และได้ทรงพระราชนิพนธ์บทเพลงไว้มากมาย หลายท่วงทำนอง อาทิเช่น ทำนองแจ๊ส บลูส์ เป็นต้น





กระทั่งเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๘๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชนิพนธ์บทเพลง "แสงเทียน" แต่ยังไม่ทรงโปรดเกล้าฯให้นำออกบรรเลง เนื่องจากมีพระราชประสงค์จะทรงแก้ไขให้ดีกว่าเดิมก่อน เพลงนี้จึงปรากฏต่อสาธารณชนหลังจากเพลงที่สองคือ ยามเย็น และเพลงที่สามคือสายฝน ดังนั้นเพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในช่วงแรก จึงมิได้บรรเลงและขับร้องกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ใช้บรรเลงและขับร้องภายในพระราชฐานในงานรื่นเริงส่วนพระองค์ วงดนตรีที่ได้เข้าไปบรรเลงถวายก็คือ วงดนตรีสากลกรมโฆษณาการหรือวงดนตรีสากลกรมประชาสัมพันธ์ในเวลาต่อมา ซึ่งในขณะนั้นมีครูเอื้อ สุนทรสนาน ครูแก้ว อัจฉริยะกุล เป็นผู้ควบคุมวง ผู้ขับร้องในยุคนั้นก็คือคุณมัณฑนา โมรากุล และ คุณวินัย จุลบุษปะ เป็นต้น

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงเพิ่มขึ้นอีกหลายเพลง และเริ่มเป็นที่รู้จักและนิยมกันอย่างแพร่หลาย จนกระทั่งได้จัดให้มีงานเต้นรำขึ้นเป็นประจำทุกวันศุกร์และเสาร์ที่เวทีลาศสวนอัมพร ทุกครั้งที่วงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์นี้ ฟลอร์ลีลาศจะคึกคักด้วยนักเต้นรำเป็นพิเศษ ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง เพลงพระราชนิพนธ์ดังกล่าวนี้ ล้วนแต่เป็นเพลงจังหวะวอลซ์ทั้งสิ้น และเป็นที่ชื่อชอบแก่นักลีลาศในยุคนั้นเป็นอันมาก เพราะเป็นจังหวะที่เต้นได้ง่ายและมีความไพเราะ

ถัดมาพ.ศ. ๒๔๙๐ บริษัทนำไทย ถนนสี่พระยา บางรัก ได้รับพระบรมราชานุญาตให้บันทึกเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ขึ้นเป็นครั้งแรก ยังความปลาบปลื้มยินดีมาสู่คุณประไพ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ เจ้าของบริษัทเป็นอันมาก ในการบันทึกเสียงครั้งนี้ มจ.จักรพันธ์เพ็ญศิริและหม่อมวิภา จักรพันธ์ ได้เป็นผู้ประสานงานจนงานสำเร็จเรียบร้อยเป็นอย่างดี











การบันทึกเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ในครั้งนี้ บรรเลงโดยวงดนตรีสากลกรมโฆษณาการ ทำการบันทึกเสียงภายในบ้านของคุณพระสุจริตสุดา (เปรื่อง สุจรติกุล) พระสนมเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เพราะแต่เดิมที่ห้องอัดเสียงนั้น เคยใช้เป็นที่ทำการของเสรีไทยมาก่อน ภายหลังจึงเปลี่ยนมาใช้เป็นห้องบันทึกเสียงแทน การบันทึกแผ่นเสียงครั้งนี้คุณเพ็ญศรี พุ่มชูศรี ขับร้องเพลงสายฝนในจังหวะวอลซ์ ซึ่งต่อมาเพลงสายฝนนี้ ครูคีติ คีตากร ได้ขอพระบรมราชานุญาตแยกเสียงประสานขึ้นใหม่และเปลี่ยนให้เป็นจังหวะสวิง ก็ได้รับความนิยมอีกเช่นกัน ส่วนเพลงใกล้รุ่งนั้น ครูเอื้อ สุนทรสนานเป็นผู้ขับร้อง เพลงชะตาชีวิต คุณวินัย จุลบุษปะ ขับร้องและเพลงสุดท้าย คือเพลงยามเย็น คุณชวลี ช่วงวิทย์ เป็นผู้ขับร้อง ซึ่งเพลงนี้ต้องใช้เสียงสูงมาก แต่คุณชวลีก็แสดงความสามารถในการขับร้องได้เป็นที่พอพระราชหฤทัย



แผ่นเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ชุดแรกนี้ออกมาเพียง ๒ ชุด ชุดละ ๒ เพลงคือบันทึกเสียงลงด้านหน้าและด้านหลัง จึงมีการบันทึกเสียงทั้งสิ้นเพียง ๔ เพลงเท่านั้น เป็นแผ่นเสียงตราสุนัขหน้าสีขาว ผลิตในช่วงประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๐ (หลังจากในหลวงทรงครองราชย์ประมาณ ๑ ปี) จากโรงงานในประเทศอังกฤษ ตัวหนังสือพิมพ์สีทองบนพื้นขาวสวยงาม เป็นแผ่นครั่งความเร็วรอบอยู่ที่ ๗๘ ต่อนาที มีความงดงามและประณีตสมพระเกียรติยศมากที่สุด



และในส่วนของแผ่นเสียงตรากระต่ายที่มีนาย ต. เง็ก ชวน เป็นเจ้าของ ก็ได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อนำบทเพลงพระราชนิพนธ์อัดลงในแผ่นเสียงตรากระต่าย ซึ่งพระองค์ท่านก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำบทเพลงพระราชนิพนธ์อัดลงในแผ่นเสียงงวดใหม่เป็นปฐมฤกษ์หลังสงคราม ซึ่งก็ได้นำออกจำหน่ายในงวดที่ ๕๒ ของแผ่นเสียงตรากระต่าย

นี่แหละครับ...จานเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ที่กล่าวถึง

ถือเป็นไฮไลท์ของงานเลย

สิ่งที่จะนำไปจัดแสดงนอกเหนือจากจานเสียง

ก็คือใบแสดงเนื้อเพลงพระราชนิพนธ์

ที่พิมพ์ขึ้นมาในสมัยนั้น

และอื่นๆ อีกมากมาย จากวง อส.

ยังไม่หมดครับ...

ตรากระต่าย ของนาย ต. เง็ก ชวน ก็มานะ

ใบโฆษณาชิ้นนี้ หายากมหาโหดครับ!

ประวัติแผ่นซีดีเพลงพระราชนิพนธ์ชุดแรกของประเทศไทย

Thailand Mon Amour เป็นการบรรเลงเปียโนโดย Richard Clayderman ศิลปินชาวฝรั่งเศส ถือได้ว่าเป็นซีดีแผ่นแรก ที่มีเพลงพระราชนิพนธ์รวมอยู่ด้วย เนื่องจากในขณะนั้นเขาได้มาเปิดการแสดงที่ประเทศไทย โดยมีการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาบรรเลงด้วยกันถึง ๔ เพลง ได้แก่

๑. FALLING RAIN (สายฝน)
๒. MAGIC BEAMS (แสงเดือน)
๓. LOVE IN SPRING (ลมหนาว)
๔. CANDLE LIGHT BLUE (แสงเทียน)

โดยบริษัท คลอสเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับมูลนิธิแผ่นดินธรรมได้จัดทำแผ่นซีดีนี้ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๑ เนื่องจากในปีนั้น คุณวิมล เตชะไพบูลย์ ได้เชิญ Richard Clayderman เข้ามาเปิดการแสดง

อัลบั้มนี้มีทั้งหมด ๑๐ เพลง ซึ่งมีเพลงบรรเลงอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพลงพระราชนิพนธ์รวมอยู่ด้วยอีก ๖ เพลง โดยซีดีชุดนี้ได้ผลิตจากต่างประเทศจากค่าย DELPHINE FRANCE ซึ่งตัวแผ่นซีดีนั้นได้ผลิตออกมาสองแบบ โดยซีดีแผ่นเงินผลิตจากประเทศออสเตรเลีย และซีดีแผ่นทอง ๒๔ K. ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น

และ CD เพลงพระราชนิพนธ์ แผ่นทองแผ่นนี้

ก็จะนำไปจัดแสดงด้วยนะครับ!

สุดยอดมากๆครับ

lekpn เขียน:สุดยอดมากๆครับ

งานจัดที่สวนอัมพรนะครับ ชวนคุณเมาท์และน้องแฟนต้าไปเที่ยวนะครับ

มาฟังซีดีเพลงพระราชนิพนธ์ชุดแรกของไทยรวม ๔ เพลงรวด!

Thailand Mon Amour เป็นการบรรเลงเปียโนโดย Richard Clayderman ศิลปินชาวฝรั่งเศส ถือได้ว่าเป็นซีดีแผ่นแรก ที่มีเพลงพระราชนิพนธ์รวมอยู่ด้วย เนื่องจากในขณะนั้นเขาได้มาเปิดการแสดงที่ประเทศไทย โดยมีการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาบรรเลงด้วยกันถึง ๔ เพลง ได้แก่

๑. FALLING RAIN (สายฝน)
๒. MAGIC BEAMS (แสงเดือน)
๓. LOVE IN SPRING (ลมหนาว)
๔. CANDLE LIGHT BLUE (แสงเทียน)

โดยบริษัท คลอสเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับมูลนิธิแผ่นดินธรรม ได้จัดทำแผ่นซีดีนี้ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๑ (ปี ค.ศ. ๑๙๘๘) เนื่องจากในปีนั้น คุณวิมล เตชะไพบูลย์ ได้เชิญ Richard Clayderman เข้ามาเปิดการแสดง

อัลบั้มนี้มีทั้งหมด ๑๐ เพลง ซึ่งมีเพลงบรรเลงอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพลงพระราชนิพนธ์รวมอยู่ด้วยอีก ๖ เพลง โดยซีดีชุดนี้ได้ผลิตจากต่างประเทศจากค่าย DELPHINE FRANCE ซึ่งตัวแผ่นซีดีนั้นได้ผลิตออกมาสองแบบ โดยซีดีแผ่นเงินผลิตจากประเทศออสเตรเลียและซีดีแผ่นทอง ๒๔ K. ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น

ในส่วนของแผ่นเสียงตรากระต่ายที่มีนาย ต. เง็ก ชวน เป็นเจ้าของ ก็ได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อนำบทเพลงพระราชนิพนธ์อัดลงในแผ่นเสียงตรากระต่าย ซึ่งพระองค์ท่านก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำบทเพลงพระราชนิพนธ์อัดลงในแผ่นเสียงงวดใหม่เป็นปฐมฤกษ์หลังสงคราม ซึ่งก็ได้นำออกจำหน่ายในงวดที่ ๕๒ ของแผ่นเสียงตรากระต่าย

เพลงพระราชนิพนธ์ คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆฟังเมื่อไหร่ก็เพราะเมื่อนั้น

มีแผ่นเสียงเก่าอยู่ไม่กี่แผ่น อยากจะฟังแบบโบราณบ้างแต่ไม่มีเครื่องเล่นแผ่นเสียง